การเผยแพร่กฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาคนไร้สัญชาติผ่านทีวีไทย
อาจารย์คะ
หนูต้องขอโทษที่อีเมลล์มาช้า เนื่องจากคอมมีปัญหาค่ะ
ประเด็นที่ทางทีวีไทยจะสัมภาษณ์นั้น หนูเสนอให้ท่านอาจารย์เล่าถึง วินาทีที่ท่านตัสินใจที่จะผลักดันการแก้ไขปัญหาคนไร้รัฐคนไร้สัญชาติในประเทศไทย หนู่และคนในสังคมไทยก็อยากฟังในรายละเอียดนะคะว่า อาจารย์คิดและเชื่ออะไรตอนนั้น อาจารย์สนับสนุนครูแดงให้ตั้ง "คณะกรรมาธิการศึกษา" อาจารย์สนับสนุนการยกร่างพระราชบัญญัติ และอาจารย์ก็ลงมาประชุมกรรมาธิการศึกษาเพื่อคิดเรื่องบทบัญญัติต่างๆ หนูจินตนาการว่า คำบอกเล่าประมาณนี้ของอาจารย์น่าจะเป็นบันทึกประวัติศาสตร์กฎหมายไทยนะคะว่า ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติคิดอย่างไรกับ "คนไทยที่โชคร้าย" กลุ่มหนึ่ง แล้วประธานท่านนั้นใช้วิธีการทางรัฐสภาอย่างไรเพื่อสร้างกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหานี้
พล็อตนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของรายการ และวันที่อาจารย์บอกหูกับครูแดงให้ยกร่างกฎหมายนั้น น่าจะเป็น "จุดเริ่มต้น" ของการเดินทางค่ะ
ในเบรคแรกของรายการ เราเสนอให้สัมภาษณ์ครูแดง (ประธาน กมธ.ศึกษาป และครูหยุย (ประธาน กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฯ)
หลังจากนั้น หนูกับตัวแทนกรมการปกครองที่อยู่ใน กมธ. ก็น่าจะมาพูดถึงคนไร้รัฐคนไร้สัญชาติที่จะได้รับการแก้ไขปัญหาจากกฎหมายใหม่ เป็นเบรคที่สองค่ะ
ส่วนเบรคที่สาม ก็น่าจะพูดถึงคนไร้สัญชาติกลุ่มแรกที่จะได้รับการแก้ไขปัญหา ก็คือ คนที่โดนผลกระทบของ ปว.๓๓๗ ซึ่งเป็นคนตามมาตรา ๒๓ แห่ง พ.ร.บ.สัญชติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๕๑ มีเจ้าของปัญหาตัวจริงมาปรากฏตัวในเวที มีคนที่ประสบผลสำเร็จแล้ว มีคนที่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ ที่คนที่ยังไม่กล้าขึ้นอำเภอ ในเบรคนี้ เราคงเห็นทั้งความคืบหน้าและอุปสรรคของมาตรา ๒๓ เราคงได้พูดถึงทัศนคติของอำเภอที่จะไม่ยอมปฏิบัติตามมาตรา ๒๓ และหนังสือสั่งการของกระทรวงมหาดไทย หากไม่มีคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัด เราคงได้พูดถึงทฤษฎีแบ่งแยกอำนาจและมาตรา ๒๓
ส่วนเบรคสุดท้าย ก็น่าจะได้พูดถึงคนไร้รัฐคนไร้สัญชาติกลุ่มต่อไปที่จะได้รับผลดีจากกฎหมายใหม่ที่จะทยอยมีผล รวมถึงความปรารถนาของทุกคนที่เกี่ยวข้องต่อการปรับใช้กฎหมายใหม่ ตรงนี้ อยากเสนอให้อาจารย์ความเห็นส่งท้ายด้วยได้ไหมคะ
หนูเสนอแนวคิดต่อทีวีไทยว่า เวทีนี้น่าจะมุ่งส่งสารเรื่อง "ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาคนไร้รัฐคนไร้สัญชาติด้วยกฎหมายของรัฐสภา" แต่อาจตั้งชื่อให้โดนๆ ว่า "คนไร้สัญชาติโดยปว.๓๓๗ : วันนี้ กฎหมายกำหนดทางแก้ไขแล้ว"
เวทีนี้น่าจะสื่อทางออกของปัญหา ตลอดจนอุปสรรคของการไปสู่ทางออก มากกว่าจะพูดแค่สถานการณ์ด้านปัญหาเฉยๆ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
อาจารย์แหววค่ะ
ปล.งานนี้เป็นงานของอาจารย์ชลฤทัย แก้วรุ่งเรือง อาจารย์ประจำสำนักนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร พะเยา ซึ่งเคยมาทำงานเป็นอนุ กมธ.ในกมธ.ครูแดงค่ะ เป็นงานเผยแพร่กฎหมายใหม่ผ่านสื่อกระแสค่ะ เรายังทำงานกันต่อค่ะ ถ้าเราไม่เชื่อในกฎหมายของเรา คนอื่นก็คงไม่เชื่อ เราสู้ตายค่ะ เรายังอยู่กันทุกคนค่ะ |