ส่งรถคืนแล้วผู้ค้ำโดยยึดที่ดินอีก
กราบเรียน อาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์
เรื่องมีอยู่ว่ากระผมขาดส่งรถยนต์ เข้าเดือนที่ 4 มีเงินมาให้พร้อม แต่ จนท.ธนาคารฯ บอกว่าผิดสัญญาแล้ว ส่งมาก็จะไม่คิดเป็นค่างวด แต่จะขอเก็บเงินไว้หักส่วนต่าง จนมี จนท.บริษัทฯ(ตัวแทนธนาคาร) มายึดรถถึงบ้าน กระผมก็ขับไปให้เค้าถึงบริษัทฯ เมื่อ 24 ก.พ.55 และได้แจ้งพนักงานธนาคารฯ ว่าได้คืนรถแล้ว ซึ่งรถผ่อนมาได้3ปีแล้ว จากสภาพและราคารถประเมินอยู่ที่ 440,000-460,000.-บาท พนักงานบริษัทฯบอกว่าไม่น่าจะมีส่วนต่าง ถ้ามีก็ไม่เกิน 10,000-20,000 ถ้ามีบริษัทฯก็จะแจ้งให้ทราบ ผ่านมาสามเดือนคิดว่าไม่น่าจะมีส่วนต่างเพราะไม่ได้รับแจ้งเลยทั้งกระผมและผู้ค้ำ ต่อมาเมื่อ 7 มิ.ย.55 มีใบประกาศเจ้าพนักงานบังคับคดีเรื่องยึดทรัพย์ที่ดินของผู้ค้ำประกัน (ราคาที่ดินประมาณ 1,400,000.-บาท) โดยธนาคารฯเป็นโจทย์ กระผมและภรรยา (จำเลยที่1) ผู้ค้ำประกัน(จำเลยที่3) กระผมมีคำถามเรียนอาจารย์ฯ ดังนี้
1.หลังยึดรถแล้ว ธนาคารไม่ติดต่อกระผมและผู้ค้ำประกัน คิดว่าน่าจะยุติแล้ว ถ้ามีส่วนต่างก็น่าจะติดต่อมาเบอร์ติดต่อก็ให้เพราะกระผมบริสุทธิ์ใจไม่คิดหนีหน้าไปไหน
2. กระผมคืนรถให้ บริษัทฯยึดรถแล้ว ธนาคารฯทำไมไม่ยุติ ทำไมปล่อยให้ทนายความดำเนินคดีไปจนเวลาล่วงเลยไปหลายเดือน จนผู้ค้ำประกันถูกคำสั่งศาลยึดทรัพย์ที่ดินถึงได้รู้ โทรไปธนาคารฯ จนท.ก็บอกขอตรวจสอบเรื่องก่อนเงียบไปอีก
3.กระผมอยากรู้ว่ากรณีนี้เป็นความผิดของธนาคารฯหรือไม่ (สมมติว่าธนาคารฯอาจแย้งว่าได้ส่งจดหมายหรือแจ้งแล้วติดต่อไม่ได้ แต่คงเป็นไปไม่ได้เพราะกระผมและผู้ค้ำประกันก็น่าจะรู้และได้รับเหมือนกัน ลืมบอกไปผู้ค้ำประกันเป็นเจ้านายของกระผมเองครับ ทุกครั้งถ้ามีเรื่องรถใครติดต่อมาท่านก็จะรีบแจ้งกระผมทันที)
4.ผมควรจะฟ้องร้องขอความเป็นธรรมกับใคร หรือฟ้องศาลอะไรได้ครับ
5.ถ้าผู้ค้ำประกันถูกยึดที่ดิน กระผมคงตายแน่ๆไม่มีปัญญาหาเงินมาซื้อที่คืนแน่
6.กรณียึดที่ดินนี้ จะขอฟ้องคัดค้านคำสั่งศาลได้หรือไม่ มีหมดระยะเวลาหรือไม่
7.ค่าทนายแพงหรือเปล่า กระผมตอนนี้กินวันละมื้อแล้วหลังน้ำท่วม
สุดท้ายนี้ขอให้อาจารย์มีสุขภาพแข็งแรงครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
สุจริตใจ |