มอบรถให้เพื่อนผ่อนต่อ เพื่อนหักหลังผ่อนซักพักก็เลิก เอาไปขี่เฉยๆเกือบปีแล้วเอาไปคืนไม่บอกเราซักนิด ตอนนี้ผมถูกฟ้องค่าเสียหายเป็นแสนครับ
อาจารย์ครับผมมีข้อปัญหาขออนุญาตเรียนถามอาจารย์ดังนี้ครับ
ขออนุญาตเล่าเรื่องราวทั้งหมดดังนี้ครับ
วันที่ 28 มกราคม 2548 ผมทำสัญญาเช่าซื้อรถระยะเวลา 4 ปี ยอดกู้ 210,000 บาท รวมดอกเบี้ยเป็น 260,000 บาท เพื่อนำรถมาใช้ทำธุรกิจ (ผมทำไดเร็กเซลล์ครับ ณ เวลานั้นยังไม่ได้เรียนต่อครับ) กำหนดชำระทุกวันที่ 20 ของเดือน โดยให้อาจารย์ที่สนิทกันเป็นผู้ค้ำประกันครับ
วันที่ 20 กันยายน 2548 ผมผ่อนชำระตามสัญญาเป็นเวลา 8 เดือน ธุรกิจประสบปัญหาจึงขาดส่ง 4 งวด คือ ตค.- ธค. 48 และ มค. 49 ครับ ด้วยความกลัวจึงมอบรถให้เพื่อนผ่อนต่อ (เพื่อนไม่สนิท) โดยเพื่อนชำระ 4 งวดที่ค้างอยู่ให้ โดยไม่ได้เปลี่ยนสัญญา แต่ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายไว้ เป็นความสะเพร่าของผมไม่ได้เก็บสัญญานั้นไว้ครับ
ด้วยความไม่สบายใจหลังจากนั้นก็ได้โทรสอบถามเพื่อนอยู่เรื่อยๆ เพื่อนบอกว่าเรียบร้อยดี ส่วนผมเนื่องจากธุรกิจมีปัญหาจึงได้หยุดทำธุรกิจ และเข้าเรียนต่อที่มข. โดยคิดว่าหมดปัญหาเรื่องรถแล้ว
ด้วยความไม่สบายใจเรื่องที่อยู่ในการรับเอกสาร กลัวว่าเพื่อนไม่จ่ายแล้วมีปัญหา จะไม่ได้รับเอกสารเตือน เนื่องจากผมไม่มีที่อยู่ชัดเจน ผมซื้อขอนแก่นหนึ่งหลังโดยไม่ได้เข้าอยู่เนื่องจากทำธุรกิจอยู่ที่มุกดาหารและนครพนม ตอนกลับมาเรียนก็อาศัยหอพักกับเพื่อน ตั้งใจจะขายบ้านเพื่อเคลียร์ธนาคาร เนื่องติดงวดอยู่ 8 งวด ส่วนที่อยู่เดิมคือบ้านที่ลำปางมีแต่คนแก่ๆ จึงไปติดต่อที่เค้าเตอร์จะให้ที่อยู่ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่บอกว่าให้เบอร์โทรไว้ นอกจากนี้ผมได้โทรติดต่อกับเจ้าหน้าที่รู้จักเล่าเรื่องให้ฟัง และ บอกว่าถ้ามีปัญหาให้ติดต่อด้วย
พฤษภาคม 2549 คือผ่านไปประมาณ 4 เดือนครับ ผมก็ติดต่อเพื่อนไม่ได้อีกเลยจนถึงปัจุบัน ล่าสุดที่คุยกันคือเพื่อนจะผ่อนชำระให้ถึง 24 งวดแล้วจะทำรีไฟแนนซ์ ซึ่งจะครบในวันที่ 20 มกราคม 2550 ให้ผมรอ
วันที่ 30 พฤษภาคม 2550 คือผ่านไปหนึ่งปี อาจารย์ที่ค้ำประกันให้ผม ได้นำเอกสารมาให้บอกว่ารถถูกยึดแล้วและนำไปขายขาดทุนทางบริษัทขอให้ชำระเงินประมาณ 100,000 บาทแยกเป็น - ค่าส่วนต่างที่ขายขาดทุน 64,000 (กู้ 260,000 - ผ่อน 16 งวด 86,000 ขาย 110,000 ) - ค่าเสียหายขาดประโยชน์ 30,000 (คิดเป็นค่าเช่า 10 เดือนที่ขาดส่ง เดือนละ 3,000) - ค่าติดตาม 3,500 โดยที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้รับเอกสาร ว่ามีการยึดรถนำไปขายทอดตลาด พอได้รับเอกสารก็บอกว่าขายไปแล้ว แต่ผมก็รีบติดต่อทันทีเพื่อขอซื้อรถคืนเนื่องจากรวมที่ผมผ่อนไป 8 งวด เพื่อนผ่อน 8 งวด รวมเป็น 16 งวด คิดว่าจะสามารถนำไปขายพอได้เงินมาชำระได้ เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องจ่าย 100,000 ผมขอต่อรอง ทางบริษัทบอกว่าให้ต่อรองในศาลครับ
ตอนนี้ผมได้รับคำฟ้องแล้วครับเป็นหมายเลขคดีมโนสาเหร่ คดีดำที่ 4517/2550 เรียกพิจารณาวันที่ 18 ตุลาคม 2550 ครับ โดยที่เอกสารที่อาจารย์ผมนำมาให้ยังมีเอกสารนัดไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเฉลิมพระเฉลิมพระเกียรติในวันที่ 19 กันยายน 2550 ครับ
ผมขอเรียนปรึกษาอาจารย์ดังนี้ครับ
1. เงินกู้พร้อมดอกเบี้ย 260,000 ในนี้รวมผมประโยชน์ไปแล้ว ในส่วนค่าเสียหายขาดประโยชน์ 30,000 โดยคิดจากระยะเวลาที่ขาดส่ง 10 เดือน คิดเป็นค่าเช่า เดือนละ 3,000 ข้อนี้ผมคิดว่าไม่ยุติธรรมครับ เนื่องจากหากฟ้องส่วนต่างได้ไปก็ถือว่าได้ชำระไปแล้ว ทำไมคิดค่าเช่าอีก ศาลท่านจะเห็นดังนี้ไหมครับ ขอความกรุณาอาจารย์แนะนำด้วยครับในการที่ผมจะขอสู้ในส่วนนี้เพื่อที่จะไม่ต้องจ่ายส่วนนี้ครับ
2. รถรุ่นนี้ราคากลางในท้องตลาดที่อ้างอิงกันอยู่ที่ 180,000-190,000 หากขายขาดทุนก็น่าจะได้สัก 140,000-150,000 และตอนที่ขายก็ไม่ติดต่อผมเลยหมายเลขโทรศัพท์ก็มี หรือ หากติดต่อที่อาจารย์ผมก็น่าจะติดต่อมาในช่วงที่ยึดมาแล้ว ไม่ใช่ติดต่อมาตอนที่จะฟ้องหรือขายไปแล้วเท่านั้น ในส่วนนี้ผมจะขอสู้เรื่องราคาขายที่ต่ำเกินไปมากๆ (เกือบครึ่งราคา) และ การที่ไม่ยอมติดต่อผมทางโทรศัพท์ได้ไหมครับ หากขายได้สัก 140,000 เป็นอย่างต่ำผมก็สามารถลดได้อีก 30,000 ครับ ขอคำแนะนำอาจารย์ด้วยครับ
3. ในกรณีนี้ผมสามารถฟ้องเพื่อนต่อได้ไหมครับ แต่ตอนนี้ผมไม่หลักฐานเลยครับ |