คุณพ่อของหนูได้ค้ำประกันคนเข้าทำงานเป็นพนักงานเก็บเงินคอนโดแห่งหนึ่ง ต่อมา พนักงานคนนั้นได้เริ่มนำเงินไปใช้ก่อนเป็นเวลาถึง6ปี(ตั้งแต่ปี2542-2548) และเมื่อไม่กี่วันมานี้มีหมายศาลส่งมาที่บ้านว่าพนักงานนี้ลักทรัพย์และคุณพ่อต้องใช้หนี้ตามสัญญา และเมื่อคุณพ่อขอดูสัญญาอีกครั้งทางบริษัทปฏิเสธ และล่าสุดนี้มีคำตัดสินของศาลส่งมาว่าให้คุณพ่อใช้หนี้ไม่งั้นต้องยึดทรัพย์
1.สามารถให้พนักงานตรวจสอบบัญชีร่วมรับผิดได้มั๊ยคะ เนื่องจากไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เงินในบัญชีหายถึง5แสนบาทแต่ตรวจสอบไม่พบ เมื่อได้บอกกับทางบริษัทเค้ากลับบอกว่าเป็นความเลินเล่อ เดี๋ยวจะลงโทษตามกฎบริษัท แล้วทำไมทีพนักงานคนนี้นำเงินไปใช้ก่อนเค้าไม่บอกว่าเป็นความเลินเล่อบ้างคะ
2.คนที่คุณพ่อค้ำประกันให้ทำไมไม่ติดคุกซะทีคะแถมบอกว่าจะพาเจ้าหนี้มายึดทรัพที่บ้านอีก(เป็นพวกเค้าไปแล้ว) หรือว่าไม่จำเป็นต้องติดคุกคะ
3.ถ้าพนักงานคนนี้ติดคุกแล้วคุณพ่อยังต้องใช้หนี้มั๊ยคะ
4.ถ้าจะขอดูสัญญาค้ำประกันต้องทำยังไงคะ
5.ถ้าเกิดการตกลงขอผ่อนชำระขึ้นแสดงว่าการค้ำประกันสิ้นสุดใช่มั๊ยคะเคยมีการขอผ่อนชำระไปแล้ว1ครั้ง คุณพ่อได้บังคับให้เค้าขายรถไปใช้หนี้ แล้วทำไมยังมีหมายศาลมาที่บ้านอีกคะ
6.ขอบคุณค่ะ
1. พนักงานบัญชีเขาไม่ได้ค้ำประกันด้วย เขาจึงไม่ต้องไม่รับผิด ส่วนการที่เขาจะต้องถูกลงโทษฐานเลินเล่ออย่างไรก็เป็นเรื่องภายในของบริษัท
2. ถ้าทางบริษัทเขาไม่ได้ฟ้องเป็นความผิดอาญา เขาก็ย่อมไม่ติดคุก
3. ก็ยังต้องใช้หนี้อยู่ดีแหละ
4. ถ้าหนี้นั้นได้รับการชำระครบถ้วนแล้ว ผู้ค้ำประกันก็ย่อมหลุดจากภาระ การที่เขาขายรถเขาอาจไม่ได้นำเงินไปชำระก็ได้
การค้ำประกันนั้น ผู้ค้ำประกันย่อมเป็น "ขี้ข้า" เขาไปจนกว่าจะชำระหนี้หมด ดังที่โบราณว่าไว้ว่า "อยากเป็นหนี้ให้เป็นนายหน้า อยากเป็นขี้ข้าให้เป็นนายประกัน"