บิดาได้ให้บุตร 3 (นาย ก ข ค)คนเข้าไปครอบครองและทำกินในที่ดินของบิดาโดยแบ่งที่ดินเป็น 3 ส่วนมีอาณาเขตชัดเจนว่าเป็นของผู้ใดบนเอกสารสิทธิฉบับเดียวกัน(น.ส.3ก) แต่ภายหลังเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินอำเภอแจ้งว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นเดียวกับที่ดินแปลงอื่นที่อยู่ใกล้เคียงกัน จนในปี 2516 บิดาได้เสียชีวิต ต่อมาในปี 2524 นาย ก ได้ใช้อำนาจในฐานะผู้จัดการมรดกเจ้าไปจดทะเบียนการโอนที่ดินทั้งหมดให้เป็นตนเองเพียงคนเดียว โดยที่นาย ข และ ค ไม่ทราบ และไม่เคยอ้างสิทธิในที่ดินจาก นาย ข และ ค แต่อย่างใด และยังได้เสียภาษีบำรุงท้องในนามของนาย ข และ ค ที่ตลอดมา ล่าสุดในปี 2555นาย ก ได้เสียชีวิตลง ภรรยาของนาย ก ได้ไปขอเป็นผู้จัดการมรดก ทำให้นาย ข และ ค ทราบว่าเอกสารสิทธิได้มีการจดทะเบียนการโอนสิทธิ และกลายเป็นที่ดินชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ดินเพื่อขอหลักฐานในการจดเปลี่ยนแปลงสิทธิและสาเหตุที่สามารถจดทะเบียนสิทธิได้ทั้งที่เจ้าหน้าที่เคยบอกว่าที่ดินแปลงดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าเอกสารทั้งหมดได้ถูกน้ำท่วมเสียหายไปในปี 2531 เอกสารที่มีทั้งหมดเป็นเอกสารที่ได้จากผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินเก็บไว้นำมายื่นกับเจ้าหน้าที่ ส่วนกรณีที่ดินทับที่สารธารณนั้นจากการตรวจสอบปรากฏว่ามีที่ดินบางส่วนเท่านั้นที่ทับที่สาธารณประโยชน์