ผมมีที่ดินเป็นชื่อของผมแต่บ้านเช่าบนที่ดินนั้นเป็นชื่อร่วมผมและพี่ชาย เดิมผมไม่ค่อยมีความรู้ผมให้พี่ชายทำธุระเพื่อขอแปลนบ้านและเจ้าหน้าที่ได้ลงชื่อพี่ชายไปด้วยและตัวผมร่วมกันเป็นเจ้าของบ้านเช่า ซึ่งผมก็ไม่คิดอะไรนึกว่าไม่มีปัญหา เพราะที่ดินก็เป็นชื่อของผม ผมปลูกบ้านเช่าหลังเล็กด้วยเงินของผมคนเดียวและเก็บค่าบ้านเช่ามากว่า 20 ปี รายได้ค่าเช่ารวมต่อเดือนไม่มาก แค่ 6-7 พัน เป็นรายได้ของผม พี่ชายมิได้มาเกี่ยวข้องหรือเรียกร้องอะไร พี่ชายและน้องทุกคนรับทราบว่าเป็นทรัพย์สินของผม แต่ต่อมาพี่ชายเสียชีวิต มีภรรยา2คน ภรรยาที่จดทะเบียนสมรสฟ้องขอแบ่งสมบัติ ซึ่งบ้านเช่าของผมก็โดนไปด้วยเนื่องจากมีชื่อพี่ชาย ขอถามดังนี้
1.ภรรยาพี่ชายจะฟ้องเอาตัวบ้านเช่าของผม ในส่วนของพี่ชาย ตามหลักฐานการลงชื่อร่วม ผมจะสามารถต่อสู้ได้ไหมครับ หรือจะหาหลักฐานอะไรมาแสดง เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้วบ้านเช่าเป็นของผม พี่น้องทุกคนและภรรยาเขาก็รู้
2. ผมกลัวว่าเขาจะฟ้องขอเอาค่าเช่าย้อนหลัง 20 ปีที่ผ่านมาด้วย ผมคงไม่มีเงินให้ เขาสามารถฟ้องเอาได้หรือไม่ครับ( ที่ผ่านมาพี่ชายก็มิได้คิดอะไรและไม่ได้ขอแบ่งค่าเช่าเพราะพี่ชายรู้ว่าบ้านเช่าเป็นของผม) ผมจะทำอย่างไรดีครับมีหนทางต่อสู้หรือไม่ ขอความกรุณาด้วยครับ
ขอถามเพิ่มเพื่อความรู้
3. กรณีบ้านเช่าดังกล่าวเป็นการลงชื่อร่วมในบ้านเช่า ก่อนการจดทะเบียนของพี่ชายและภรรยา การแบ่งมรดกจะแตกต่างจากทรัพย์สินที่ได้มาหลังจดทะเบียนหรือไม่
ผมจะทำอย่างไรดีครับมีหนทางต่อสู้หรือไม่ ขอความกรุณาด้วยครับ
1. เมื่อตามหลักฐานทางทะเบียนมีชื่อพี่ชายเป็นเจ้าของร่วมด้วย ก็คงยากที่จะไปพิสูจน์หรือปฏิเสธได้ เพราะการมีชื่อนั้นไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดมานานและคุณก็รู้ และไม่ได้ติดใจอะไร ทางที่ดีก็คือตีราคาบ้านตามสภาพที่เป็นอยู่ แล้วจ่ายเงินให้ภรรยาของเขาครึ่งหนึ่งของค่าบ้าน
2. สำหรับค่าเช่านั้นเมื่อพี่ชายคุณไม่ได้เคยติดใจ ถ้าเขามีสิทธิในค่าเช่าบ้านแต่เขายกให้คุณ ก็เท่ากับเป็นการยกให้โดยเสน่หา ภรรยามาเรียกคืนไม่ได้ แต่สำหรับของใหม่ที่จะเรียกเก็บต่อไปนั้นเขาอาจเรียกร้องเอาก็ได้
3. ก็อาจแตกต่างกันในแง่ที่ว่าถ้าเป็นสินสมรสก็เป็นของภรรยาครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งจึงเป็นมรดก
ถ้าเป็นคดีความกันก็ควรต้องหาทนายความไปสู้กับเขา