เรื่องมีอยู่ว่าน้องเขยหนูได้ไปซื้อที่ดินไว้ที่บ้านเกิดที่กำแพงเพชร โดยที่พ่อกับแม่ของน้องเขยเป็นคนจัดการเรื่องทุกอย่าง น้องเขยเป็นคนจ่ายตัง โดยที่น้องเขยก็ไม่รู้อะไรมาก แต่น้องเขยก็ถามพ่อกับแม่อยู่ว่าที่ดินมีโฉนดมั้ย พ่อแม่ของน้องเขยก็บอกว่าคนที่จะขายให้เขามีครบทุกอย่าง น้องเขยเลยสบายใจคะ แล้วนัดจ่ายเงินกัน2ครั้ง ครั้งที่1 จ่าย 160000บาท ครั้งที่2 จ่าย170000บาท ตกลงซื้อขายกันในราคา330000บาทคะ ที่ดิน 1ไร่ 20ตรว.คะ แต่พอวันที่ลงไปจ่ายงวดที่2 ครบหมดแล้ว กลับไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดใดเลยคะ คนที่ขายให้บอกว่าเป็นทีที่จับจองแล้วเขาก็ ทำกินมา8-9ปีแล้ว พ่อแม่น้องเขยเลยเชื่อใจคะ เพราะบ้านก็อยู่ใกล้กันเห็นกันมา8-9ปี โดยตอนซื้อก็ได้ทำสัญญาซื้อขายถูกต้องมีผู้ใหญ่บ้านรู้เห็นและเพื่อนบ้านอีกหลายๆคนรู้เห็นคะ หนูเลยมีคำถามที่จะรบกวนถามอาจารย์คะ
1.เรื่องเป็นอย่างนี้แสดงว่าคนที่ขายที่ให้เราเขามีเจตนาหลอกหลวงไช่มั้ยคะ
2.เราสามารถไปแจ้งความได้มั้ยคะข้อหาหลอกหลวง
3.เขาขายที่ให้330000 -ซึ่งที่จริงที่ภบท.ซื้อขายกันเองอยู่ที่ไร่ละ20000โดยประมาณ เพราะที่ที่ซื้อแค่1ไร่ 20ตรว.
ขอขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงคะ
แค่ 1ไร่ 20ตรว.คะ
1.-2. ถ้าเขาไม่เคยบอกเลยว่าเป็นที่ดินมีโฉนด เป็นแต่เพียงความเข้าใจของคุณตามคำบอกของคนอื่นก็คงไปหาว่าเขาหลอกลวงไม่ได้ เว้นแต่จะได้ความว่าเขาหลอกว่าเป็นที่ดินมีโฉนด แต่ถ้าดูจากวิธีการจ่ายเงิน ทางฝ่ายคุณก็น่าจะรู้อยู่ว่าไม่มีโฉนด เพราะถ้าเป็นที่ดินมีโฉนด การซื้อขายก็ทำกันเองไม่ได้ ต้องไปจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน การที่คุณจ่ายเงินให้ก่อนโดยไม่มีการโอนหรือจดทะเบียนการซื้อขาย ก็แปลว่าคุณน่าจะรู้อยู่แล้ว
3. การซื้อขายเป็นความสมัครของทั้งสองฝ่าย เมื่อราคาเป็นที่ตกลงกันได้ ก็ไปทำอะไรไม่ได้