ทางออกที่เหมาะสม
มีประเด็นที่เกี่ยวข้องดังนี้
1.ดิฉันได้โอนที่ดินจากการเสียชีวิตของบิดาในพื้นที่กรุงเทพเมื่อปี 2551 เนื้อที่ 90 ตร.ว. (จากการแบ่งซื้อแปลงใหญ่ 2 ไร่ ร่วมกัน 8 คนๆละ 100 ตร.ว. ตัดเป็นทางเข้าคนละ 1*10 วา และได้แยกเป็นชื่อแต่ละผู้ซื้อเมื่อปี 2522 คนละ90 ตร.ว.) แบ่งเป็น 8 แปลงและมีทางผ่ากลาง และนาง ก เป็น 1 ใน 8
2.นาง ก. มีที่ดินฝั่งตรงข้ามกับดิฉัน ซึ่งอยู่ติดถนนใหญ่ มีการใช้ประโยชน์ปลูกบ้านพักไปนานแล้ว และนาง ก. ได้สร้างกำแพงกันพื้นที่ส่วนของตนเป็นมุมหักศอกทำให้การเข้ามายังที่ของดิฉันซึ่งอยู่อีกฝั่งลำบากมาก ทำให้เจ้าของที่ดิน ฝั่งดิฉันทั้ง4แปลงยังไม่สามารถถมและปลูกใช้ประโยชน์ที่ดินได้ เพราะส่วนของทางเข้าตามโฉนดจะต้องขนานกับกำแพงที่นาง ก. สร้างขึ้น(ค่อยๆ แคบลงเรื่อย 5-3.75 เมตร(พท.ประมาณ33ตร.ว.) ก่อนจะมาบรรจบกับทางผ่ากลางระหว่างที่ดินฝั่งละ4แปลงกว้าง1*50วา
3.ต่อมานาง ก.จะใช้พื้นที่ด้านหน้าที่ติดถนนใหญ่(เป็นสามเหลี่ยมชายธง) ที่เคยให้คนเช่าทำเสาปูนขายมาเป็นเวลานานแล้ว ปลูกสร้างคาร์แคร์ จึงขอให้กรมที่ดินสอบเขต ทำให้ดิฉันและเจ้าของที่ดินฝั่งเดียวกันอีก3รายทราบเรื่องจากจดหมายถึงเจ้าของที่ดินใกล้เคียง ทำให้ดิฉันรับทราบข้อมูลว่ามีการทำโฉนดทางแยกต่างหาก(รายละเอียดตามท้ายข้อ1) และยังเป็นชื่อของบิดาดิฉันที่เสียชีวิตแล้ว
ผลการสอบเขตทำให้ทราบ แต่ไม่มีเอกสารรับรองจากเจ้าหน้าที่ดังนี้
1.นาง ก สร้างกำแพงลุกล้ำแนวทางที่กันโฉนดไว้ (ได้พูดคุยแล้วมีข้ออ้างว่าปลูกสร้างมาเกิน10ปีแล้ว) แต่ดิฉันเพิ่งจะได้รับโอนที่ดิน2ปีและไม่สามารถจะรู้ได้ถึงการบุกรุกแนวเพียง1เมตรได้เนื่องจากไม่ใช่ช่างเฉพาะทาง
2.บริเวณพื้นที่ของดิฉัน เมื่อมองมาจากด้านหน้าจากถนนใหญ่จะเห็นเป็นแนวหญ้ารกสูงกันไว้ แต่จากการสอบเขตพบว่าด้านหลังแนวหญ้ารกมีคนบุกรุกใช้ประโยชน์ (คล้ายต้องการอำพรางแอบซ่อน)
3.พื้นที่ดินฝั่งดิฉันทั้ง 4 แปลง หายไปกว้างอย่างน้อย 1 วา และยาวตลอดแนว
4.รับทราบว่าในอดีตได้ขอใช้ทางผ่านติดถนนของนาง ก.ชั่วคราว เพื่อถมดิน แต่นาง ก.เรียกค่าชดเชยแปลงละ 35,000 จึงไม่มีการถมที่แต่อย่างใด (ก่อนที่บิดาจะเสียชีวิต)
5.ดิฉันและเจ้าของที่ดินฝั่งเดียวกัน ได้เจรจาขอแลกพื้นที่ติดถนนใหญ่เหมือนกันตรงทางแนวขนานกำแพงบ้านนาง ก. (33 ตร.ว.) กับทางตรงผ่านเข้าที่ดิน (5 ตร.ว.) ของนาง ก. และขอให้นาง ก.ถมทางที่เหลือส่วนที่ผ่ากลาง(50ตร.ว.)ให้ด้วย ซึ่งจากที่พิจารณาแล้วนาง ก.จะได้ประโยชน์ทางทั้งเนื้อที่ทางติดถนนอีกเกือบ 30ตร.ว. แต่นาง ก. เบี่ยงเบนว่าขอคิดดูก่อน
จากรายละเอียดทั้งหมด ดิฉันควรจะต้องทำอย่างไรดีคะ เป็นความทุกข์อย่างมาก เพราะไม่สามารถจะใช้ที่ดินซึ่งบิดายกให้เป็นมรดกปลูกสร้างบ้านอาศัยได้ (ปัจจุบันดิฉันต้องเช่าที่ดินคนอื่นอาศัยเสียค่าเช่าเดือนละ300บาท) และบิดาก็เป็นห่วงเรื่องนี้อย่างมากได้สั่งไว้ก่อนเสียชีวิต
จึงขอความกรุณา อ.มีชัย ให้คำแนะนำทางที่เหมาะสมแก่ดิฉันด้วยเถิดค่ะ เพราะเป็นปัญหาต่อเนื่องมานานแล้วตั้งแต่รุ่นพ่อ อย่าให้ต่อเนื่องถึงรุ่นดิฉัน และทำให้ลูกหลานรุ่นต่อๆไปต้องลำบากทั้งกายและใจอีกเลยค่ะ ท่าน อ.มีชัย สามารถตอบทางอีเมล์โดยตรงก็ได้นะคะ หากจะกรุณา |