เดือนมีนาคม2552 ข้างบ้านที่ดินติดกันได้มาทำการตอกเสาเข็มรั้วขนาด 20ซม.ลึก5เมตรประมาณ 60 กว่าต้นในรัศมี ต้นที่ตอกใกล้ที่สุด 5 เมตร ไกลสุด 25 เมตร โดยไม่บอกกล่าวให้ทราบ และเค้า(ปลัดอาวุโสของอำเภอ)อ้างตามหลักวิชาการซึ่งมีน้องเป็นวิศวกรว่า การสั่นสะเทือนจากการตอกเสานี้มีรัศมีไม่เกิน 2 เมตร รั้วคุณอยู่ใกล้ทำไมไม่พัง บ้านคุณอยู่ไกลกว่าไม่ถึงอยู่แล้ว แต่บ้านของข้าพเจ้า(สิรินทรเป็นครู)ตอกลึกได้เพียง 3 เมตรก็ตอกไม่ลงของเค้าตอกลึก5เมตร จนทำให้เสาเข็มเอนเข้าไปกินที่ของที่ดินข้างบ้านอีกฟากหนึ่ง เจ้าของเค้ามาร้องอบต.ว่ากินที่บ้านเค้า เค้ายอมซื้อที่ดินของฝ่ายนั้น ในส่วนของข้าพเจ้า ผนัง ขอบประตูหน้าต่างแตกร้าว ขอบผนังบ้านด้านล่างนอกบ้านแตกร้าว พื้นทางเดินแตกร้าวทรุด พื้นโรงรถที่เทภายหลังก็แตกทรุด ร่องที่ต่อระหว่างโรงรถกับทางเดินเท้าห่างขึ้นกว่าเดิมและเป็นร่องลึก รั้วได้รับความเสียหายในส่วนของหัวเสาเกือบทุกต้น ข้าพเจ้าเห็นบ้านของตนเองเสียหายในภายหลัง เมื่อทำความสะอาดบ้าน ข้าพเจ้าหวั่นวิตกตลอดมา จนเดือนกันยายน 2552 ได้ข่าวเค้าจะตอกเสาเข็มสร้างบ้านอีก ทำใจไม่ได้จึงไปขอความช่วยเหลือจากนายกอบต.ที่ดูแลพื้นที่ให้เค้าใช้วิธีอื่นแทนเพราะยอมรับไม่ได้ เค้าไม่ยอมบอกว่าต้องเสียเงินเพิ่ม ไปหานายอำเภอ ก็ตกลงกันไม่ได้ นายอำเภอให้ไปร้องสคบ. ในวันที่ 4 พ.ย. ตอนเย็มเค้ากับเมียมาที่บ้านบอกว่าเค้าสงสารที่เห็นหนูร้องไห้จะเปลี่ยนจากตอกเป็นเจาะให้และจะให้ซ่อมตรงไหนบ้าง แต่ต้องไปทำข้อตกลงที่อบต.ก่อนในวันที่ 6 พ.ย. โดยเค้าพิมพ์มาในข้อ 2 ว่าข้าพเจ้าเห็นใจเค้าที่เสียงินเจาะจึงไม่เรียกร้อง กลับคำพูดในวันที่ 4 ตอนเย็นวันนั้น ข้าพเจ้าและพี่สาวไม่ยอมลงชื่อ เค้าก็บอกว่า"ถ้าคุณก้าวขาออกจากห้องนี้(ห้องนายกอบต.) ผมก็จะตอก ข้าพเจ้าก็จะกลับบ้าน เค้าก็บอกเปลี่ยนเจาะและจะให้ซ่อมตรงไหน นายกบอกให้ไปดูด้วยกันเค้าบอกไม่ไป ข้าพเจ้ากลัวว่าเค้าจะตอกก็ร้องไห้รับไม่ได้ และยอมลงชื่อในข้อตกลง แต่เค้าแก้ในข้อ 3 ที่ว่าทำให้บ้านนางสิรินทร เสียหายเป็น ที่คาดว่าน่าจะทำให้บ้านนางสิรินทรเสียหาย และการซ่อมไม่รวมรอยแตกลายงาที่เป็นทั้งบ้านให้ ภายในเดือนเมษายน 2553(เดิมบอกให้รอเค้าสร้างเสร็จ1เดือนก่อนจึงจะให้ช่างสร้างบ้านมาซ่อมให้(กรกฎาคม 2553)พี่สาวบอกว่านานเกินไป บ้านจะเสียหายมาก เมื่อมาอ่านข้อตกลงและไปให้อัยการสคช.ดูและคนอื่นๆ บอกว่าเค้าเอาเปรียบและในข้อ 3 น่าจะเป็นปัญหาภายหลังที่ต้องแปลความว่าเค้าจะเอาอย่างไร ไปร้องขอความช่วยเหลือจังหวัดเจอคนที่อยู่หน้าห้องรองผู้ว่าถามว่าคุยกับปลัดหรือยังให้ไปคุยกันก่อนงง/ และให้เริ่มต้นร้องที่นายอำเภอขึ้นมาจนถึงโยธาจังหวัดไปพิสูจน์ว่ากระเทือนถึงมั๊ย เขาก็รู้ว่าเหตุการณ์ที่พูดข้าพเจ้าเล่าให้ฟังแล้วยังจะให้กลับไปเริ่มต้นใหม่ไม่เข้าใจจึงนั่งเฉย คนนั้นจึงให้ไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดๆ ประสานให้โยธาจังหวัดไปตรวจสอบ นายช่างออกไปตรวจสอบไปหาเค้าแต่ไม่ไปหาข้าพเจ้า แล้วสรุปว่าบ้านของข้าพเจ้าพบการแตกร้าวในส่วนของผนังไม่พบการแตกร้าวของโครงสร้าง(ตามสายตา)ของนายช่างที่ดูจากภายนอก และแนะนำให้ข้าพเจ้าหาคนกลางมาช่วยพูดไกล่เกลี่ยให้เค้ายอมชดใช้ค่าเสียหาย(ใครได้รับความเสียหายกันแน่) เพราะเค้าไม่เคยพูดด้วยเลย ทั้งๆ ที่เค้ามาปลูกต้นไม้ รดน้ำต้นไม้และควบคุมการก่อสร้างทุกวัน เห็นกันทุกวัน ข้าพเจ้าขอถามว่า ข้อ 1.ข้าพเจ้าจะแก้ไขข้อตกลงให้เป็นธรรมกับข้าพเจ้าได้อย่างไร ข้อ2. ข้าพเจ้าจะเรียกร้องค่าเสียหายอย่างไร ข้อ3.ข้าพเจ้าจะไปแจ้งความได้ไหมและข้อ 4. ขอความเมตตาแก่คนยากที่หมดหนทางแก้ไขปัญหาที่ตนเองไม่ได้ก่อ ร้องไห้ทุกวันจนกระทั่งนักเรียนคงนึกสงสารเอายาหม่องน้ำมาให้ดม "ครูครับเอาไปดมมั๊ยครับ แม่ผมเอามาจากงานศพหลายอันครับ"