สวัสดีค่ะอาจารย์ ดิฉันมีเรื่องจะรบกวนสอบถาม คือดิฉันแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติและย้ายไปอยู่กับสามีที่ต่างประเทศต่อมาหลังจากนั้น 1 ปีดิฉันซื้อที่ดินที่เมืองไทยทำนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์เป็นของดิฉันเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยมอบอำนาจให้พี่ชายที่อยู่เมืองไทยเป็นคนจัดการให้ทุกอย่าง ต่อมาดิฉันได้อ่านเจอข้อกฏหมายทางอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับหลักการการซื้อที่ดินของหญิงไทยที่สมรสกับชาวต่างชาติ2542 ว่าต้องมีใบรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางสถานทูตเกี่ยวกับเงินที่นำมาซื้อที่ดินที่เมืองไทยนั้นไม่ได้เป็นของสามีชาวต่างชาติพร้อมกับลายเซ็นของสามีที่มีพยานรับรู้แนบด้วยเวลาที่เข้าไปทำนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์กับที่ดินอำเภอซึ่งดิฉันไม่เคยทราบเรืองนี้มาก่อนเลย ตอนที่โอนกรรมสิทธิ์หลักฐานส่วนตัวคำนำหน้าชื่อ สถานะ และนามสกุลยังไม่ได้เปลี่ยนตามสามีเพราะเอกสารเดิมยังไม่หมดอายุและยังใช้ได้อยู่(คือดิฉันจดทะเบียนสมรสที่ต่างประเทศคะ)แต่ดิฉันก็ไม่ได้มีเจตนาจะปิดบังสถานะตนเองกับทางที่ดินหรือทำผิดกฏหมายแต่อย่างใด ตอนนี้ดิฉันกลุ้มใจมากไม่ทราบว่าจะมีทางแก้ไขหรือเปล่าและดิฉันจะต้องทำยังไงบ้าง ผู้หญิงไทยที่แต่งงานกับชาวต่างชาติที่นี่เยอะมากดิฉันคิดว่าคงจะมีหลายคนที่อาจจะไม่รู้เรื่องนี้และดิฉันเชื่อว่าคงจะมีจำนวนไม่น้อยที่ซื้อที่ดินหลังแต่งงานเหมือนกับดิฉันแต่อาจทำผิดไม่รู้ตัว หลังจากทราบเรื่องดิฉันเคยโทรไปถามถึงใบรับรองดังกล่าวกับทางเจ้าหน้าที่ที่สถานทูตไทยที่ประจำอยู่ที่นี่เขาไม่ทราบเรื่องเอกสารดังกล่าวค่ะ
ตามกฎหมายนั้น คนไทยทุกคนย่อมมีสิทธิซื้อที่ดินได้โดยไม่มีอะไรมาจำกัด แต่สำหรับคนไทยที่สมรสกับต่างชาตินั้น จะมีปัญหาอยู่บ้างในตอนซื้อและโอนที่ดิน กล่าวคือ ถ้าเป็นการซื้อในระหว่างที่สมรสกับคนต่างด้าว ทางราชการก็จะเกรงว่าถ้าที่ดินนั้นเป็นสินสมรส คนต่างด้าวที่เป็นคู่สมรส ก็จะมีสิทธิในที่ดินนั้นครึ่งหนึ่ง ซึ่งตามกฎหมายเขาห้ามไม่ให้คนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ดังนั้นในเวลาที่ใครก็ตามที่มีคู่สมรสเป็นคนต่างด้าวไปโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ถ้าไม่ระบุว่าเป็นสินส่วนตัว เขาก็จะไม่ยอมดำเนินการโอนให้ แต่ถ้าระบุว่าเป็นสินส่วนตัว ก็ไม่มีปัญหาอะไร เขาก็ยอมโอนให้ ปัญหาทั้งหมดจึงอยู่ที่ตอนไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ในกรณีของคุณเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิเป็นชื่อคุณเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่มีอะไรผิด ไม่ต้องไปกังวลใจ ข้อมูลที่คุณได้มานั้นอาจเป็นความเข้าใจผิด หรือคลาดเคลื่อนได้