เมื่อบริษัทฯจัดสรรที่ดินเบี้ยวตามข้อตกลง...
เรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพนับถืออย่างสูง
ผมมีเรืองขอปรึกษาอาจารย์ เมื่อปี 2539 ผมได้ซื้อที่ดินจัดสรรแปลงหนึ่งเพื่อสร้างบ้านเป็นพื้นที่โซน เอ (บริษัทฯแบ่ง 3 โซน คือ โซน เอ โซน บี และโซน ซี โดยที่โซน เอ จะแพงกว่าโซน บี เพราะอยู่ไกล้กับเนื้อที่ที่จะสร้าง สปอร์ตคลับที่มีเนื้อที่ 16 ไร่ ตามที่บริษัทใด้โฆษณาชวนเชื่อใว้ว่าจะมีสนามกีฬาต่างๆสระว่ายน้ำสปอร์ตคลับมีมูลค่ากว่า 70 ล้านมีแบบแปลนไห้ด้วย)ด้วยหวังว่าเมื่อสร้างบ้านแล้วจะได้มีที่พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย ซึ่งหลายคนที่ซื้อที่ดินที่นี่ก็หวังเช่นเดียวกัน แต่แล้วบริษัทฯนี้ไม่ได้สร้างสปอร์ตคลับตามที่โฆษณาชวนเชื่อโดยผลัดวันประกันพรุ่งตลอด จนเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2547 คณะกรรมการหมู่บ้านได้ไปร้องที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดฯ ก็ได้มีบันทึกข้อตกลงระหว่างกรรมการหมู่บ้านกับตัวแทนบริษัทซึ่งเป็นทนายความประจำบริษัท โดยอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประกอบด้วย อัยการจังหวัด เจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัด ได้ทำข้อตกลงฉบับหนึ่งกับบริษัทว่า
1. เรื่องสปอร์ตคลับ
- ทางตัวแทนของบริษัทฯผู้ขายตกลงจะก่อสร้างสปอร์ตคลับในบริเวณเนื้อที่ 16 ไร่ โดยมีสนามกีฬาต่างๆ ดังนี้ สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส สนามแบตมินตัน สนามบาสเกตบอล Fitness อย่างละ 1 สนามเป็นอย่างน้อย
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะมีการดำเนินการ ดังนี้
1.1 ทำแบบก่อสร้างและแจ้งให้ตัวแทนผู้ร้องเรียนทราบ ภายในเดือนมีนาคม 2548
1.2 เริ่มทำการก่อสร้าง ภายในเดือน มิถุนายน 2548
1.3 ทำการก่อสร้างให้เสร็จ ภายในประมาณเดือนธันวาคม 2548
1.4 ผู้ที่ซื้อที่ดินของโครงการจะได้รับสิทธิใช้บริการของสปอร์ตคลับ แปลงละ 50,000 บาท
2. เรื่องทางเชื่อมต่อ
- บริษัทฯ ตกลงว่า จะซ่อมแซมเส้นทางเชื่อมต่อกับถนนกาญจนวนิชให้อยู่ในสภาพดี และดำเนินการดูแลและซ่อมแซมให้อีกภายใน 5 ปี นับตั้งแต่ 1 มกราคม 2548 จนถึง 31 ธันวาคม 2552
จนบัดนี้บริษัทฯไม่ได้ดำเนินการใดๆตามข้อตกลงเลย..ทางคณะกรรมการหมู่บ้านซึ่งมีผมอยู่ด้วยก็ได้ติดตามที่จังหวัดเพือตามเรื่องนี้ ทางจังหวัดให้ทำหนังสือร้องเรียนใหม่เพือจะติดตามเรื่องให้ใหม่(ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมต้องทำเรืองใหม่เรืองเดิมและหลักฐานก็ไห้ครบแล้ว)ตลอดบันทึกข้อตกลงเดิมที่เขียน ศาลากลางจังหวัดก็มีอยู่...
..ในโครงการนี้บริษัทได้ขายที่ดินที่จัดสรรใว้ หลายร้อยแปลงหมดตั้งแต่แรกแล้วและทุกคนได้ผ่อนส่งธนาคารโอนเป็นที่ นส3 กเป็นของตนเองแล้วจนบัดนี้ยังไม่เห็นบริษัทได้ดำเนินการตามข้อตกลง..ทราบข่าวว่าบริษัทนี้ได้กำไรจากโครงการนี้ ไปลงทุนที่อื่นต่อ และขณะนี้บริษัทกำลังทำหมู่บ้านจัดสรรขายบ้านพร้อมที่ดินเป็นเจ้าของคนเดียวกันใช้ชื่อบริษัทใหม่...
อยากปรึกษาและความเห็นอาจารย์ว่า
1. ควรจะดำเนินการอย่างไรในกรณีนี้ทีบริษัทไม่ทำตามข้อตกลง..ถ้าทางอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคไห้มาเจรจาไกล่เกลี่ยใหม่ ผมว่าก็เข้าทางบริษัทฯก็ยื้อไปเรือยๆอีก ต่อสู้เจรจามาเกือบ 10 ปีหวังพึ่งสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคดูแล้วไม่มีน้ำยาอะไร..เหมือนไม่มีอำนาจทำอะไรได้
2. ถ้าจะฟ้องเรียกค่าเสียหายในกรณีไม่สร้างสปอร์ตคลับตามสัญญาใว้จะสามารถกระได้หรือไม่ เพราะคนที่ซื้อโซนเอแพงกว่าโซนบีและโซนซี แปลงละหลายแสนบาท (เดิมก่อนหน้าร้องเรียนงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัด ทางบริษัทฯขอขายที่ดินครึ่งหนึ่งคือ 8 ไร่จาก 16 ไร่ที่จะสร้างสปอร์ตคลับเพื่อเอาเงินมาสร้างสปอร์ตคลับแต่ทางกรรมการหมู่บ้านไม่ยอม มันจะเอาเปรียบทุกวิถีทาง)
ผมจึงขอรบกวนเรียนปรึกษาและขอคำแนะนำจากอาจารย์เพื่อเมื่อมีการประชุมคณะกรรมการหมู่บ้าน ผมจะนำเสนอที่ประชุม เนืองจากคณะกรรมการไม่มีนักกฎหมายเลย หากพึ่งคุ้มครองผู้บริโภคของจังหวัดไม่ได้ อาจจะลงขันจ้างทนายแล้วกระมัง..แต่ขอความเห็นและคำแนะนำจากอาจารย์เป็นแนวทางต่อไป
สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณอาจารย์มีชัยมากๆทุกคำตอบที่ผมได้รับจากอาจารย์มีประโยชน์กับส่วนรวมและสังคมมากมาตลอด ขอไห้บุญแห่งความดีทั้งหมดไห้อาจารย์มีความสุข สบายใจ ร่างกายแข็งแรง ครับ
ด้วยความเคารพนับถืออย่างสูง |