เรียน ท่านมีชัย ที่เคารพ

ต้องการหย่ากับสามี แต่มีเรื่องสงสัย ดังนี้ค่ะ

1. สามีมีชู้ ค่อนข้างมั่นใจว่าปัจจุบันอาศัยกับหญิงชู้  เพราะเรามีรูปุคู่ของเค้าสองคน และรูปที่สามารถเปรียบเทียบได้ว่าบ้านผู้หญิง และบ้านที่สามีอยู่ เป็นสถานที่เดียวกัน   แต่ทั้งนี้ ก็เข้าใจ (เอง) ว่าสามีและหญิงชู้ ยังไม่ถึงกับเปิดเผยสถานะให้ผู้อื่นทราบเท่าใดนัก  คำถามคือ เฉพาะหลักฐานที่เรามี จะถือเป็นหลักฐานได้หรือไม่ว่าสามีนอกใจ และใช้เป็นเหตุแห่งการหย่า

2. แยกกันอยู่มาสองปีกว่า  คำถามคือ พิสูจน์กันอย่างไรว่าแยกกันอยู่  (ศาลจะถามจากพยาน หรือใครคะ???)

3. สินสอด ของหมั้น ถือว่าเป็นของที่ผู้หญิงได้เป็นกรรมสิทธิ์ใช่หรือไม่  สามีจะมาฟ้องให้แบ่งครึ่งได้หรือไม่

4. กรณีสินสอดเป็นที่ดิน (ซึ่งเป็นชื่อของแม่สามี)  แต่สามีไม่ได้โอนเป็นชื่อเรา  (ตอนนี้ เค้าก็เอาคืนไปแล้ว ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการของเรา ที่คืนเค้าไป)   หากจะหย่า (ทั้งกรณียอมหย่าแต่โดยดี หรือฟ้องหย่า)  เราจะให้สามีนำสินสอดที่เป็นโฉนดที่ดิน มาคืนเรา และโอนมาเป็นชื่อของเราหรือลูกได้หรือไม่

5. เราสามารถขอให้ระบุในบันทึกการหย่าได้หรือไม่ ว่า "สินสมรสที่มีอยู่ ให้เป็นของเราแต่ผู้เดียว" 

6. เรามีเงินฝาก LTF, RMF และประกันชีวิต ประกันสุขภาพ (ที่มีบุตรเป็นผู้รับผลประโยชน์)   จะถือว่าเป็นสินสมรสหรือไม่   สามีจะขอแบ่งครึ่งได้หรือไม่  (ทั้งหมดต้องฝากยาว อย่างน้อย 5 ปี  จะแบ่งยังไง????)

7. ถ้าเราโอนรถที่เราซื้อมาใหม่ หลังจากแยกกันอยู่ (แต่ยังไม่หย่า)  ให้ญาติ  สามีจะอ้างได้หรือไม่ ว่าเราโอนรถให้คนอื่น เพื่อลบเลี่ยงการแบ่งสินสมรสคนละครึ่ง  แล้วเค้าจะอ้างสิทธิ หรือเอาส่วนแบ่งของรถได้หรือไม่?????

ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ

1. เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งได้ แต่จะถึงขนาดให้ฟังเป็นยุติว่าเขามีหญิงอื่นหรือไม่ คงตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล

2. ตัวเองก็เป็นพยานได้ นอกจากตัวเองแล้วก็อาจเอาคนในบ้าน คนบ้านใกล้เรือนเคียงที่รู้เรื่องไปเป็นพยานได้

3. สินสอดนั้นเป็นของบิดามารดาของฝ่ายหญิง  ถ้าบิดามารดายกให้ฝ่ายหญิงก็เป็นสินส่วนตัวของหญิง ถ้ายกให้แก่ทั้งสองคนก็เป็นสินสมรส  ส่วนของหมั้นนั้นเป็นสินส่วนตัวยของหญิง

4.  ถ้าที่ดินนั้นเป็นของแม่สามี สามีก็ไม่มีสิทธิโอนให้ใครได้  ส่วนที่มีการตกลงกันว่าสินสอดเป็นที่ดินแปลงดังกล่าว ก็คงต้องไปฟ้องให้เขาโอนให้หรือมิฉะนั้นก็ใช้เงินเท่ากับราคาที่ดินนั้น แต่คนที่ฟ้องคงต้องเป็นพ่อแม่ของฝ่ายหญิง

5. ได้ แต่การระบุไว้เฉย ๆ โดยไม่มีการโอนกันจริงนั้น ถึงเวลาก็มักจะบิดพลิ้วกันเสมอ  ทางที่ดีถ้าตกลงกันได้ว่าจะให้เป็นของใคร ก่อนจดทะเบียนสมรสก็โอนกันเสียให้เรียบร้อย

6. ถ้าเงินที่ไปฝากเป็นสินสมรส เงินนั้นก็เป็นสินสมรส

7. ถ้าถึงคราวต้องแบ่งสินสมรสกันจริง ๆ และเขายังติดใจในรถนั้น เขาก็เรียกส่วนที่เป็นของเขาจากคุณ