เรื่องมีอยู่ว่า พ่อกับแม่หย่ากัน(20 เมษา 2547) เพราะพ่อมีเมียน้อย ขณะที่พ่อมีเมียน้อย พ่อเอาบ้านเข้าจำนองกับธนาคารเป็นเงิน สี่แสนบาท โดยที่ไม่บอกแม่ วันนึงแม่เหมือนมีลางสังหรณ์ว่าพ่อจะต้องทำอะไรกับบ้านนี้แน่เลยชวนผมไปที่สำนักงานที่ดิน(ประมาณปลายปี47) ก็เจอพ่อกับเมียใหม่ พ่อมาทำเรื่องจำนองบ้านกับแบงค์ แม่จึงเอาใบหย่าแย้งว่าแม่มีสิทธิ์ครึ่งหนึ่ง บ้านหลังนี้ซื้อหลังจากที่พ่อและแม่จดทะเบียนกันแล้ว(ประมาณปี2525) พอหย่า ในใบแนบท้ายระบุว่า ให้บุตรอยู่ในการปกครองของมารดา โดยพ่อจะจ่ายค่าเลี้ยงดูเดือนละ6000บาท(แต่พ่อไม่เคยจ่ายเลยสักครั้ง) และบ้านหลังนั้นจะแบ่งกันคนละครึ่งหากมีการขาย ให้ฝ่ายหญิงอยูบ้านหลังนั้นได้  จากนั้นพ่อจึงหลอกล่อให้แม่เซ็นใบยินยอมการจำนองบ้านกับธนาคาร แล้วจะแบ่งเงินให้ครึ่งหนึ่ง แต่พ่อเสร็จแล้วพ่อจะหนี ผมเลยแย่งเช็คมา แล้วจึงไปแบ่งกันที่ธนาคาร เราจบลงวันนั้น การแบ่งเช็คฝ่ายละ2แสน แล้วก็แยกกันไป พ่อกับเมียใหม่ไปทำบัตรเครดิต แต่ไม่จ่าย เขาเลยฟ้อง ส่งจดหมายมาที่บ้านที่ผมกับแม่อยู่ แล้วก็ฟ้อง พ่อก็จ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง พวกเขาจะยึดบ้านที่ผมอยู๋ แต่พ่อไม่ได้อยู่ เลยไม่เดือดร้อน เพราะถ้ามีการขายทอดตลาด บ้านหลังนั้นราคาประเมินก็ล้านกว่าๆแล้ว พ่อเขาสบาย แต่ผมกับแม่จะไม่มีที่อยู่ แล้วผมจะทำอะไรได้ ผมสามารถทำอะไรได้บ้างครับ อีกอย่างพ่อก็ไม่เคยจ่ายค่าเลี้ยงดูผมเลยสักครั้ง ผมกับแม่ไม่มีจะกิน ผ่านไป ก็มีหมายศาลมีปีกหมุดที่หน้าบ้าน มีคนมาถ่ายรูปบ้าน ตอนนั้นผมก็จำไม่ได้ว่าแม่ได้ทำอะไรไปบ้าง จำได้แต่ว่าเราต้องไปขึ้นศาล ฟ้องเรื่องที่พ่อไม่จ่ายค่าเลี้ยงดู และเพื่อเอาชื่อเข้าโฉนดบ้านหลังนั้น แต่ผมมารู้วันนี้เองว่าแม่ได้บังคับคดี เอาชื่อเข้า (อันนี้ผมไม่รู้จริงๆว่าแม่จะฟ้องไปเพื่ออะไร เพราะแม่เค้าฟังแฟนใหม่เค้า) แล้วเราก็อยู่บ้านหลังนั้นมาเรื่อยๆ จนวันนึงมีหมายศาลมาว่าจะขายบ้านหลังนั้นทอดตลาด เราเลยต้องวิ่งเต้นกันอยู่ แล้วต่อมาแม่ก็ผ่อนบ้านหลังนี้ทุกเดือนเดือนละ3500บาท แม่บอกว่าแม่ไปประนอมหนี้มา ต้องจ่ายทุกเดือนไม่ให้ขาด เริ่มจ่ายตั้งแต่กลางปี51 พวกเราพยายามติดต่อพ่อ เพราะแม่ผมคิดว่า พ่อน่าจะโอนบ้านหลังนี้ให้ผมถ้าพ่อไม่เอาแล้ว เราจะได้ใช้หนี้บ้านหลังนี้อย่างสบายใจ แต่แฟนใหม่แม่บอกว่าพ่อโอนหนี้ให้ลูกไม่ได้ ซื้อขายกับลูกของตัวเองไม่ได้(เกิดเป็นปัญหาขึ้นมากับผมตลอก ฝากตอบปัญหานี้ด้วยนะครับ) ตอนนั้น(ปี51)ผมทำงานเงินเดือน9500 บ้านที่เป็นหนี้352,000กับดอกเบี้ยอีก130,000+ แฟนใหม่แม่บอกว่าให้ผมกู้เพื่อเอาบ้านออก แต่เมื่อเราไปที่ธนาคาร ทางธนาคารให้เรากู้เฉพาะส่วนที่เป็นต้น เราจึงไม่ได้กู้ในวันนั้น เพราะผมไม่มีเงินจ่ายดอกและค่าโอนอีก รวมๆก็5แสนกว่า เกือน6แสน แล้วแม่ยังต้องการเงินมาต่อเติมบ้านอีก(ส่วนนี้เค้าเชื่อแฟนใหม่เค้ามากเกินไป) ผมเป็นคนเดียวในบ้านที่ทำงานมีเงินเดือนประจำ แม่เป็นแค่แม่บ้าน ส่วนพ่อเลี้ยงก็เป็นบุคคลล้มละลาย เราเลยยังไม่ได้กู้และส่งต่อไป จนกระทั่งกลางปี52(พค) เราต้องจ่ายเงินค่าประนอมหนี้5หมื่นบาท แม่ก็จ่ายไป พร้อมกับส่งหนี้มากขึ้นเป็น4000+บาทต่อเดือน แม่บอกว่าหนี้เหลือประมาณ3แสนนิดๆ ให้ผมกับพี่สาวหาเงินมาโปะ ผมอยากถามว่า ถ้าผมหาเงินมาได้แล้ว ผมสามารถซื้อบ้านหลังนั้นได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้พี่สาวผมซื้อได้ไหม เพราะเธอเป็นลูกของแม่ กับแฟนคนก่อนหน้าผม หรือหาใครมาซื้อได้หรือไม่ แล้วพ่อสามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะทางฝ่ายเราติดต่อพ่อไม่ได้เลย โทรไปก็ไม่รับ อีกอย่างพ่อก็มีหนี้ด้วย พวกบัตรเครดิตที่พ่อไปทำส่งจดหมายมาที่บ้านมากมาย แล้วพ่อมีสิทธิ์หรือไม่ที่จะไม่ยอมขายให้เรา พ่อมีสิทธิ์ทำอะไรได้บ้าง ตอนนี้ผมไม่มีงานทำ ไม่รู้จะทำยังไง ถ้าหากไม่มีบ้านอยู่อีก ก็คงแย่แน่ๆ แล้วถ้าหากว่า ผมให้คนเช่าบ้านหลังนี้ แล้วผมเอาเงินไปส่งบ้านได้หรือไม่ พ่อมีสิทธิ์ไหมที่จะไล่คนที่เช่าบ้านออกไป แล้วถ้าแม่อยากขายบ้านหลังนี้จะทำอย่างไร พ่อยังคงมีส่วนแบ่งในบ้านหลังนี้อยู๋หรือไม่ เพราะแม่เป็นคนส่งหนี้ทั้งหมด ในการประนอมหนี้กับธนาคาร พ่อก็เซ็นหนังสือยินยอมให้แม่ดำเนินการแทน และให้แม่ส่ง เราจะหาทางสู้ได้อย่างไร

ขอโทษด้วยหากเรื่องของผมยาว แต่ผมเดือดร้อนจริงๆ ตอนนี้ผมไม่รู้จะพึ่งใคร จะปรึกษาทนายที่ไหนได้