ดิฉันหย่ากับสามี 10กว่า ปีแล้ว ปัจจุบันอดึตสามีได้เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่มีหนี้สินมากมายทิ้งไว้เพราะสามีเก่าได้ทำนิติกรรมไว้ก่อนหย่ากัน และไม่มีทรัพย์สินใดทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิตเลย ดิฉันถูกยึดบ้านซึ่งเป็นชื่อดิฉันและถูกฟ้อง และมีห้องแถวอีก 2 ห้องเป็นชื่ออดีตสามีที่กำลังจะถูกยึด ซึ่งมีหมายศาลมาถึง ลูกชาย ( อายุ 21 ปี กำลังศึกษา ) ว่าเป็นทายาทอันดับ 1 ลูกหนี้ต่อจากพ่อเขาด้วย ทั้งที่ตอนเลิกกัน ลุกอายุ 9 ขวบเอง ปัจจุบันเรามาอาศัยอยู่กับคุณแม่ดิฉัน และคุณย่าเขาก็ช่วยส่งเสียด้วย คุณแม่รักหลานคือลูกชายดิฉันมากกว่าใคร เพราะเรียนหมอด้วย ท่านอยากจะยกทรัพย์สินให้ลูกชายดิฉัน โดยท่านกำลังจะขายบ้านที่เราอยู่ด้วยกันนี้ ( หนีน้ำท่วม รถติดมาก )และไปซื้อที่ดินแปลงใหม่สร้างบ้าน และกำลังจะซื้อหู้นไว้ให้หลานเก็บเป็นค่าการศึกษา โดยขอเรียนว่า
1. คุณแม่จะซื้อที่ดิน โดยใส่ชื่อ ลูกชายดิฉัน เป็นเจ้าของโฉนดจะมีปํญหาไหมค่ะ หรืออาจใส่ชื่อร่วมกับคุณแม่ 2 คนก็ได้ แล้วแต่คุณแม่ แต่คุณแม่กลัวว่าอนาคตทางธนาคารเขาจะมายึดที่ดินไปเพราะใส่ชื่อหลานค่ะ
2. คุณแม่จะเอาเงินที่ฝากในธนาคารออกมาซื้อหุ้น ระยะ 5 ปี เพื่อเก็บไว้ให้หลานเรียนหนังสือต่อ โดยจะใส่ชื่อหุ้นเป็นชื่อหลานเลย อนาคตเมื่อศาลเขามายึดตึกแถวแล้วฟ้องลูกชายดิฉัน คุณแม่กลัวว่าเขาจะมายึดเงินในหุ้นที่ท่านซื้อไว้ให้หลานได้ไหมค่ะ หรือคุณแม่จะใส่ชื่อคุณแม่ แต่ทำพินัยกรรมไว้ให้หลานค่ะ
เพระคุณแม่อายุ 75 ปีแล้วค่ะ ท่านอยากทำอะไรๆ ให้หลานให้ลูก ๆเรียบร้อย
ไม่อยากให้มีปัญหาภายหน้าค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ
อันที่จริงถ้าคุณหย่ากันแล้วและบ้านนั้นเป็นของคุณ ๆ ก็ไม่ควรถูกยึดบ้าน รวมทั้งทรัพย์สินของลูกก็ไม่ควรถูกยึดเพื่อชำระหนี้ของอดีตสามี เพราะหนี้ของใครคนนั้นจะต้องชำระ คนอื่น ๆ จะต้องชำระก็ต่อเมื่อไปรับมรดกเขามา แต่ถ้าในเวลาเป็นคดีกันแล้วปล่อยปละละเลยไม่ไปสู้คดี ศาลก็จะต้องสั่งยึดทรัพย์สินของทางยาทไปชำระหนี้ก่อน ถ้าไปสู้คดีก็จะได้บอกศาลได้ว่าได้รับมรดกมาหรือไม่เป็นจำนวนเท่าไร สำหรับคำถามข้อ 1 - 2 นั้น รวมอยู่ในคำตอบข้างต้นแล้ว