ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    035941 การค้ำประกันรถ และการหย่าผู้เสียรู้7 กรกฎาคม 2552

    คำถาม
    การค้ำประกันรถ และการหย่า

    เรียน ท่านอาจารย์มีชัย ที่เคารพ

    ขอเรียนข้อมูลเพื่อประกอบคำถาม ดังนี้ค่ะ

    1. สามีไม่ได้เรื่อง  เช่น

       1.1  สามีไม่มีความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและการเลี้ยงดูเรื่องต่างๆ ในครอบครัว  มีงานประจำ ก็ต้องลาออก อ้างว่านายไม่ได้เรื่อง  และคิดว่าตัวเองสามารถหางาน freelance ทำได้ (แต่ก็ไม่สามารถทำได้อย่างที่พูด)

       1.2  ไม่มีเวลาให้กับครอบครัว  แต่มีความเห็นแก่ตัว ที่สามารถหาเวลาไปเรียนต่อปริญญาโท ใบที่สี่ได้  โดยไม่คำนึงว่าการดูแลครอบครัวเป็นอย่างไร  เวลาจะมีให้กันหรือไม่   นึกจะกลับบ้านต่างจังหวัด ในขณะที่ลูกป่วย ก็ไป  อยากกลับบ้านตีหนึ่ง ตีสอง ก็ทำ  ไม่ห่วงเรื่องขโมยหรืออะไรใดๆ ทั้งสิ้น

       1.3  พอพูดคุยเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อหาทางแก้ ก็ว่าเราเพ้อเจ้อ  ไม่มองอะไรไกลๆ ว่าเค้าทำเพื่อครอบครัวอยู่  พร้อมกันนี้ เค้าก็ว่าเราประสาท  ให้ไปเช็คสมอง  หรือหาจิตแพทย์  ท้ายที่สุดก็ไม่ต้องพูดคุยอะไรกัน เพราะยังไง ในสายตาของเค้า เราก็ผิดอยู่วันยังค่ำ 

       1.4  เคยมีเหตุการณ์ที่เราดูโทรศัพท์เค้า แล้วเค้าขอคืน  ออกอาการมีพิรุธอย่างแรง  เลยไม่คืนโทรศัพท์ให้   เค้าก็เลยมาบีบแขน และบีบคอเรา (ต่อหน้าลูกที่ยังเล็กอยู่)  ... ก็บุญของเราที่เค้าทำต่อหน้าลูก  เพราะพอลูกตกใจร้องไห้ เค้าถึงได้หยุด

        1.5  ตอนรักแรกก็ว่าหวาน  ก็ไปจดทะเบียนสมรสซะนี่ ... ตอนนี้ เศร้าย้อนหลังค่ะ

    บทสรุปของข้อ 1 คือ สุดทน และไล่เค้าออกจากบ้าน (ซึ่งเป็นบ้านในชื่อเรา เราซื้อเอง)  จะครบ 1 ปี ต้นเดือนสิงหาคมนี้  และเราก็เลี้ยงดูลูก 1 คน เอง พร้อมทั้งดูแลค่าใช้จ่ายของลูกทุกอย่าง   ทั้งนี้ ได้เคยคุยและ email บอกคุณสามีว่ามาหย่ากันให้จบๆ เรื่องไปซะดีกว่า  แต่เค้าไม่ยอม อ้างว่าเราไล่เค้าออกจากบ้าน  เค้าไมได้อยากหย่า  (ตอนที่เราพูดไล่เค้า  เค้าอัดเสียงเราไว้ด้วย  ซึ่งเรามารู้ทีหลังว่าเค้าร้ายกาจใช้ได้ที่ทำอย่างนั้น)

    2. ได้เสียรู้ไปค้ำประกันการซื้อรถยนต์ให้กับ "สามี" ตัวเอง เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา โดยมีค่าผ่อนเดือนละสองหมื่นกว่าบาท ระยะเวลาการผ่อน 60 เดือน ที่ผ่านมา สามีส่งเงินชำระค่างวดรถมาโดยตลอด สถานการณ์ปัจจุบัน (เมื่อ kick คุณสามีออกจากบ้านไปเกือบหนึ่งปีแล้ว) คือ

        2.1 สามีค้างชำระงวดรถยนต์มาแล้ว 9 งวด ตั้งแต่เดือน พย 51 ถึง ปัจจุบัน (กค 52)  (ทั้งหมดจาก 60 งวด ยังมีค่ารถที่ต้องชำระอีก 16 งวด  ตามปกติ จะสิ้นสุดการส่งค่ารถประมาณเดือน กพ 53)  คิดเบ็ดเสร็จ น่าจะค้างประมาณห้าแสนบาท

        2.2 ธนาคารตามหาลูกหนี้ (คือสามี) มาโดยตลอด   แต่ตามไม่เจอ เพราะตั้งแต่ถูกเราไล่ออกจากบ้าน คุณสามีไปอยู่ที่ไหนก็ไม่ทราบได้  (ไม่คิดจะตามหาด้วยค่ะ)  ธนาคารก็มาตามกับเรา ในฐานะ "ผู้ค้ำประกัน"  ซึ่งแน่นอนว่าเจอ เพราะเราไม่ใช่พวกปิดโทรศัพท์หนี   นอกจากนี้ ธนาคารยังไปตามที่บ้านต่างจังหวัด ก็เจอแต่ญาติ ไม่เจอเจ้าตัว  (สำหรับที่ทำงาน ก็เนื่องจาก อ้างว่าเป็น Freelance ก็เลยหาที่อยู่เป็นหลักแหล่งไม่ได้)

       2.3 ได้เคยเช็คกับธนาคาร ได้ความว่าในกรณีนี้ ถ้าลูกหนี้ไม่ส่งเงินเลย 9 งวด  ธนาคารก็จะฟ้อง  (ซึ่งเดือน กค 52 ก็ครบเดือนที่ 9 แล้วค่ะ)

    บทสรุปของข้อ 2 :  เท่าที่นั่งอ่านกระทู้ใน web ของท่านมีชัย ก็พอจะเดาอนาคตตัวเองได้ว่า เราต้องรับภาระห้าแสนบาท แทนคุณ (อดีต) สามีแน่ๆ 

     

    คำถามค่ะ

    1.   ประเด็นเรื่องชีวิตครอบครัว  : ดิฉันต้องการหย่าค่ะ  คุณ (อดีต) สามี นอกจากจะไม่รับผิดชอบแล้ว ยังไม่สำนึกถึงการกระทำของตัวเองด้วย  ก็เลยไม่รู้จะอยู่ไปให้ประสาทเราเสียไปทำไม  แต่ประเด็นคือเค้าไม่ยอมหย่า  อ้างว่าเราเป็นคนไล่เค้าออกจากบ้าน และมีหลักฐานที่อัดเสียงของเราไว้  แถมด้วยการบอกว่าถ้าลูกโต  จะเอาเทปนี้ ให้ลูกฟัง  ลูกจะได้รู้ว่าแม่ทำลายครอบครัว!!!!   ทุกวันนี้ เสื้อผ้า ของใช้ของเค้าก็ยังไม่ยอมมาขนไปซะที

         1.1  กรณีเราไล่เค้าออกจากบ้าน (ก็จะครบ 1 ปี แล้ว)  เค้าไม่ได้เป็นฝ่ายย้ายออกไปเอง  จะเป็นเหตุให้เราฟ้องหย่าได้หรือไม่  ถ้าไม่ได้ตอนนี้ จะทำยังไงให้หย่าได้คะ  (ต้องรอให้ครบ 3 ปี หรือไม่)

         1.2  ของๆ เค้าที่ยังอยู่ในบ้าน เราขนไปทิ้ง หรือเอาไปไว้ที่อื่นได้หรือไม่ (บ้านเป็นชื่อของเรา) 

          1.3  ตอนจดทะเบียนสมรส เรา declare แล้วว่าสมบัติเรามีอะไรบ้าง เช่น บ้าน รถยนต์ ที่ดิน เป็นต้น  ในขณะที่เค้าไม่แจ้งว่าอะไรเป็นของเค้าบ้าง   กรณีที่หย่า  สิ่งที่เรา declare ไว้  จะถือว่ายังเป็นของๆ เราใช่หรือไม่ 

          1.4  เหมือนเคยอ่านเจอว่าเงินเดือน โบนัส หรืออะไรที่เราหามาได้หลังจากแต่งงาน ก็ถือว่าเป็นสินสมรส  ซึ่งถ้าหย่าก็ต้องแบ่งกัน ... แต่ไม่ fair เลยค่ะ  ในขณะที่เราหาเงินได้  เก็บไว้เพื่อเลี้ยงลูก เป็นค่าเล่าเรียนของลูก  และเค้าไม่มีงานทำ .. อย่างนี้ เค้าสมควรจะได้ส่วนแบ่งจากเงินที่เราหามาได้หรือคะ

    2. ประเด็นเรื่องการค้ำประกัน : ขอเรียนถามว่า

        2.1  ปกติ ขั้นตอนการตามหนี้อย่างนี้ มีอะไรบ้างคะ  (ขอคร่าวๆ เพราะถามเจ้าหน้าที่ของธนาคารแต่ละคน พูดไม่ค่อยเหมือนกัน)

        2.2  จะมีทางออกอะไรบ้างหรือไม่ นอกจากนั่งรอหนังสือฟัองร้องจากศาล  ... เช่น เจรจาประนอมหนี้ 

        2.2  ถ้าเราไม่ยอมจ่าย จะเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง

        2.3  สมมติว่าเราจนตรอก ต้องจ่ายเงินใช้หนี้แทนคุณลูกหนี้จริงๆ  ในอนาคต หากเราได้พบเจอคุณลูกหนี้  เราจะไปตามล้างตามเช็ด เอาเงินคืนมาจากลูกหนี้ได้หรือไม่  (จะด้วยวิธีใด อีกเรื่องหนึ่งค่ะ)

    ขอกราบเรียนขอคำแนะนำด้วยค่ะ   ขอบพระคุณมา ณ ที่นี้เป็นอย่างสูงค่ะ

    คำตอบ

    เรียน ผู้เสียรู้

    1.1  โดยพฤติการณ์ที่เขาทำอยู่ ก็อาจใช้เป็นเหตุในการหย่าได้ แต่เมื่อไล่เขาออกจากบ้านแล้วจะอาศัยการแยกกันอยู่ก็ไม่ได้เพราะไม่ได้แยกกันอยู่ด้วยความสมัครใจ

    1.2 ไม่ควรทำอย่างนั้น ถ้ามันเกะกะตานักก็หากระเป๋าหรือกล่องเก็บรวบรวมไว้เป็นที่เป็นทาง

    1.3 ใช่

    1.4 ใช่แล้ว ถึงจะไม่ fair ก็ตามเถอะ

    2.1 ถ้าเขากรุณาเขาก็ทวงถาม แต่ปกติเขาจะปล่อยเลยไปแล้วก็ฟ้องเอาเลย

    2.2 ควรลองเจรจาดู บางทีจะประหยัดค่าทนายความที่เขาจะเรียกเอาในเวลาที่ฟ้องศาล

    2.3 เขาก็ฟ้องศาล เมื่อชนะแล้วก็ตามมายึดทรัพย์ไปขาย

    2.4 เมื่อชำระหนี้แทนแล้วก็ไปตามเอาจากเขาได้ (ถ้าเขามีให้)


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    7 กรกฎาคม 2552