MeechaiThailand.com

ความคิดเสรีของมีชัย

เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว

เรื่องสั้น

จดหมายถึงนาย

	นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
	การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
	ค่าส่วนกลาง
	ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
	ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
อ่านทั้งหมด


	ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม

ปิดหน้าต่างนี้

คำถามที่	หัวข้อคำถาม	โดย	วันที่
034973	อ้างเหตุฟ้องหย่า	ภัทรนันท์	10 พฤษภาคม 2552

คำถาม

อ้างเหตุฟ้องหย่า
จดทะเบียนสมรสกันมาตั้งแต่ปี 2543 สามีปกปิดสถานะสมรสไว้ว่าตนยังโสดทั้งต่อพ่อแม่พี่น้องเขาเอง (ฝ่ายพ่อแม่สามีไม่ค่อยชอบดิฉัน เพราะอายุมากกว่า 6 ปี) และหน่วยงานที่สังกัด แต่พ่อแม่เราและพ่อแม่สามีทราบว่าเราอยู่กินด้วยกัน (ปัจจุบันฝ่ายพ่อแม่ของดิฉันเสียชีวิตแล้ว) เราไม่ค่อยมีโอกาสได้อยู่เป็นครอบครัว แยกกันทำงาน สามีรับราชการอยู่ต่างจังหวัด ตลอดชีวิตสมรส สามีไม่สามารถรับผิดชอบช่วยเลี้ยงดูเราได้ เนื่องจากเขามีภาระหนี้สินเงินกู้ที่เขาก่อจากการเล่นพนันและเรื่องส่วนตัว เราต้องหาเลี้ยงตัวเอง ไม่สามารถมีบุตรกันได้เพราะเขาอ้างว่าไม่พร้อม ลำพังเงินเดือนตัวเขาเองก็ไม่พอใช้ พอช่วงปี 49 ฐานะหน้าที่ความเป็นอยู่เขาเริ่มดีขึ้น เราลาออกจากงานเนื่องจากข้อเข่าอักเสบทั้ง 2 ข้างเดินยืนมาก ๆ ก็ปวด เป็นอุปสรรคในการทำงาน ต้องพบแพทย์รักษาอาการอยู่ตลอด เบิกค่ารักษาพยาบาลใช้สิทธิสามีก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่ทำเรื่องเบิกให้ เพราะติดที่ไม่ยอมเปิดเผยตัวเองว่าสมรสต่อหน่วยงานที่เขาสังกัด และเมื่อปี 51 ดิฉันได้มาทราบว่าเขายังแอบเล่นพนันบอล และมีโทรศัพท์ติดต่อพูดคุยกับหญิงอื่นบ่อย ๆ ก็มีปากเสียงกัน ดิฉันจึงได้ทำบันทึกข้อตกลงให้เขายอมรับเงื่อนไขว่า 1.จะให้เกียรติยกย่องดิฉันในฐานะภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย และปฏิบัติหน้าที่สามี โดยให้ช่วยส่งเสียเลี้ยงดูดิฉันเป็นเงินเดือนละ 5,000 บาท 2.จะเลิกเล่นพนัน ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาหนี้สินและทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัว 3.เลิกพฤติกรรมเจ้าชู้ ติดต่อผูกสัมพันธ์กับหญิงอื่น ซึ่งเขาได้อ่านแล้วแต่ไม่ยอมลงชื่อในบันทึกที่ทำนี้ ( แต่ปฏิบัติตามที่ขอร้องได้ประมาณ 10 เดือน) เมื่อเมษาที่ผ่านมาได้มาพบกัน ดิฉันก็พบว่าเขายังแอบเล่นพนันบอลอยู่ โทรเล่นแต่ละครั้งเป็นหลักพัน หลักหมื่น โดยใช้เงินกู้ก่อนใหม่ที่เขาอ้างว่ากู้มาเพื่อจะซื้อรถยนต์ใช้ จนปัจจุบันเงินที่กู้มายังไม่ได้ใช้ในการซื้อรถ (คงเอาไปหมุนเล่นก่อน) พอมีปากเสียงกัน เขาก็ไม่พอใจที่ดิฉันว่ากล่าว หลังจากที่เขาเดินทางกลับไปทำงานต่างจังหวัด เขาก็ไม่ยอมติดต่อกลับอีกเลย เงียบไปเฉย ๆ เงินทองก็ไม่ยอมส่งมาให้ ทวงถามก็ไม่ติดต่อกลับ ส่วนตัวดิฉันช่วงนี้ค้าขายไม่ค่อยดี มีภาระและหนี้สินต้องใช้จ่าย สุขภาพก็แย่ ข้อเข่าก็ไม่ค่อยดี เครียดมากค่ะ....อยากปรึกษาท่านอาจารย์ช่วยแนะนำว่าจะทำอย่างไรดี จะใช้เหตุอะไรฟ้องหย่าเขาได้ จะฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูได้หรือไม่ ดิฉันอยากให้เขารับผิดชอบชีวิตฉันบ้าง ดิฉันเสียเวลาตลอดระยะ10 ปี อยู่กินกับเขาไม่มีอะไรขึ้นมาเลย หลักทรัพย์อะไรก็ไม่มี มีแต่หนี้ หากปล่อยให้เป็นอยู่อย่างนี้ชีวิตสมรสมันต้องจบอยู่แล้ว...อยู่ไปก็ไม่มีความสุข เพราะเขาไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเลย

คำตอบ

ในบรรดาสาเหตุที่กฎหมายกำหนดให้ถือเป็นเหตุหย่าได้ ๑๐ ประการนั้น มีประการหนึ่งมีความว่า "สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควร หรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อ้เอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีปภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้ " กรณีของคุณน่าจะเข้าข่ายเหตุที่จะหย่าได้ดังกล่าว

มีชัย ฤชุพันธุ์
10 พฤษภาคม 2552