สวัสดีค่ะ ขอกราบเรียนถามท่านอาจารย์มีชัย ดังนี้ค่ะ

1.สงสัยค่ะ เรื่องสมัครใจแยกกันอยู่ 3 ปีฟ้องหย่าได้ แต่ถ้าเราไม่สมัครใจหล่ะคะ คือฝ่ายชายทอดทิ้งให้เราอยู่กับลูกตามลำพัง และกลับไปอยู่กับพ่อแม่เขา จะมีวิธีการตรวจสอบยังไงคะ (เราต้องไปหาฝ่ายชายเพื่อยืนยันรักษาสถานะไหมคะว่าเราไม่ยินยอม) และเค้าจะฟ้องหย่าเรา และอ้างว่าตกลงกันกับเราแล้วได้ไหมคะ หากเราไม่ได้สมัครใจ เพราะว่ามีเหตุผลส่วนตัวที่ยังไม่ต้องการหย่าให้เขาตอนนี้ค่ะ แล้วการที่เราไม่ได้มีท่าทีโวยวายที่เขาไม่อยู่กินด้วยกันกับเราถือว่าเราสมยอมโดยปริยายไหมคะ(ขอความกรุณาท่านอาจารย์ อธิบายให้หายสงสัยด้วยเถิดค่ะ)

2.หากศาลตัดสินให้ฝ่ายชายส่งเสียค่าเลี้ยงดูเรา และบุตร แต่ฝ่ายชายไม่ส่ง ศาลจะเอาผิดอะไรได้บ้างคะ ร้ายแรงแค่ไหนคะ ต้องรับโทษแบบไหนคะ แล้วขั้นร้ายแรงที่สุดที่ศาลเอาผิดได้มีเรื่องไหนอย่างไรหรือคะท่าน

3.ผู้หญิงสามารถตั้งนามสกุลขึ้นมาใหม่เป็นของตนเองได้ไหมคะ

4.เงินเดือน โบนัส เมื่อถึงเวลาแบ่งสินสมรส จะจัดว่าใช่ไหมคะ และถ้าใช่ของที่ซื้อจากเงินดังกล่าว จะเป็นสินสมรสด้วยไหมคะ

5.จะทราบได้อย่างไรคะ ว่าคู่สมรส เลี่ยงสินสมรส โดยการใช้ชื่อญาติ หรือ พ่อแม่เป็นเจ้าของสิ่งที่เค้าซื้อหรือไม่คะ

6.การฟ้องหย่า/เรียกค่าเลี้ยงดู/ฟ้องหญิงชู้ ใช้เวลานานไหมคะ ประมาณ 1 เดือนหรือเปล่าคะ ได้ยินมา

7."ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพฐานะและความเป็น
อยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบอีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้" เอาสถานะมาคำนึงยังไงหรือคะไม่เข้าใจอย่างมากค่ะ

8.ทิ้งร้าง คือคนที่เป็นฝ่ายย้ายจากไปจากบ้านที่พักด้วยกันกับเราใช่ไหมคะ หรือคนที่เป็นฝ่ายอยู่ก็กลายเป็นทิ้งร้างได้คะ

ขอขอบพระคุณค่ะที่ท่านสละเวลา

ด้วยความนับถืออย่างสูง

Single Mom

เรียน Single Mom

1. การจะถือว่าสมัครใจแยกกันอยู่ได้นั้น ต้องทั้งสองฝ่ายต่างสมัครใจ  ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทิ้งอีกฝ่ายหนึ่งไปเฉย ๆ ถือว่าเป็นการละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่ง  ถ้าทิ้งไปเป็นเวลาเกินหนึ่งปี ฝ่ายที่ถูกละทิ้งร้างมีสิทธิฟ้องหย่าได้  กรณีของคุณถ้าถึงหนึ่งปี คุณมีสิทธิฟ้องหย่าเขาได้ เขาไม่มีสิทธิฟ้องหย่าคุณ

2. การส่งเสียค่าเลี้ยงดูเป็นเรื่องทางแพ่ง ไม่มีความผิดทางอาญา เว้นแต่อยู่ในฐานะที่จะส่งเสียได้แล้วจงใจไม่ส่ง ตามคำสั่งศาล ๆ อาจใช้มาตรการอย่างหนึ่งอย่างใด เช่น การสั่งให้เอาตัวมาขังไว้ฐานขัดคำสั่งศาลได้  แต่โดยปกติเมื่อไม่ชำระหนี้ ฝ่ายเจ้าหนี้ก็มีสิทธิบังคับคดี คือไปยึดทรัพย์มาขายทอดตลาดได้

3. ได้

4. ใช่

5. ก็ต้องหาพยานหลักฐานมายืนยัน ซึ่งเมื่อเป็นคดีความกันก็เป็นหน้าที่ทนายความที่เขาจะซักไซร้ไล่เลียงเพื่อหาพยานหลักฐานมาเสนอศาล

6. สุดแต่ว่ามีการต่อสู้คดีกันมากเพียงใด บางเรื่องก็เป็นหลาย ๆ ปี แต่ไม่มีทางที่จะแล้วเสร็จภายในหนึ่งเดือน

7. เช่น เอาแต่เที่ยวเตร่สำมะเลเทเมาทุกวัน

8. อาจเป็นได้ทั้งสองทาง  เพราะบางกรณีคนที่อยู่บ้านเฉย ๆ ก็อาจเป็นการทิ้งร้างได้ เช่น ฝ่ายหนึ่งต้องย้ายไปรับราชการต่างจังหวัด และอีกฝ่ายหนึ่งไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องอยู่ที่เดิม แต่จงใจอยู่ที่บ้านเดิมโดยไม่มีเหตุผล เช่นบ้านเดิมก็เช่าเขาอยู่ ลูกก็ไม่มี งานก็ไม่ได้ทำ แต่ไม่ยอมตามไป ก็อาจถือเป็นการจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งได้