หน่วยงานของรัฐวางหลักทางปกครองในเรื่องระเบียบวินัยและความประพฤติว่า ว่า การที่ข้าราชการมีพฤติการเป็นชู้กับผู้อื่นถือว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง โทษไล่ออกจากราชการ / ในการสอบสวนคดีวินัยเรื่องหนึ่ง คณะกรรมการรับฟังข้อเท็จจริงจากการสอบสวนลได้ว่า ข้าราชการชายผู้หนึ่งมีพฤติการณ์อยู่กับหญิงอื่นที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน(วัยกลางคน 30-40ปี) ที่เป็นภรรยาของบุคคลอื่น เป็นระยะเวลาเป็นครั้งคราวเช่นคราวละ 2-3 วัน ในบ้านหลังเดียวกันเพียงสองคน หลายๆคราว ในเวลาที่เขาทั้งสองอยู่ด้วยกันนี้บางทีมีผู้พบเห็นว่าชายน่งผ้าขาวม้า หญิงนุ่งกระโจมอกอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง เขาทั้งสองคนนี้ในวัยรุ่นเคยเป็นคู่รักกันมาก่อนแต่ไม่เคยแต่งงานกัน ฝ่ายหญิงแต่งงานกับคนอื่นแล้วหวนมาอยู่กับข้าราชการชายโดยฝ่ายหญิงยังอยู่ในภาวะที่จดทะเบียนสมรส ในการสอบสวนเขาทั้งสองรับว่าพักอาศัยอยู่ด้วยกันจริงเพียงสองคน แต่ไม่เคยมีความสัมพันธิ์ทางเพศกันเลย ในสายตาของวิญญูชนทั่วไป มองว่าเขาทั้งสองเป็นชู้กัน แต่ไม่มีหลักฐานใดยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าเขาทั้งสองมีเพศสัมพันธ์กัน ในทางกฎหมายในการรับฟังพยานหลักฐานทางคดีปกครอง จะรับฟังได้หรือไม่ว่าเขาทั้งสองเป็นชู้กัน (โทษถึงไล่ออก ) หรือ จะถือหลักการรับฟังพยานหลักฐานเช่นในคดีอาญาว่า จะต้องมีพยานหลักฐานพิสูจน์ถึงขนาดปราศจากข้อสงสัยเช่นต้องถึงขนาดว่ามีพยานหลักฐานประจักษ์ชัดว่าเขาทั้งสองมีเพศสัมพันธ์กัน จึงจะถือว่าเป็นชู้กัน หากหลักฐานไม่ประจักษ์จะฟังว่าเขาเป็นชู้กันไม่ได้ และให้พ้นผิดทางวินัย ไม่ทราบว่าหลักฐานรับฟังพยานหลักฐานเพื่อลงโทษผู้ถูกกล่าวหาทางคดีวินัย อันเป็นเป็นเรื่องวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองจะใช้หลักอย่างไร จึงจะชอบด้วยกฎหมาย และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พยายามค้นคว้าด้วยตนเองแล้วแต่ไม่ได้คำตอบแน่ชัด เลยขอกราบเรียนถามอาจารย์ เพื่อเป็นความรู้ไว้ใช้ปฏิบัติงานต่อไป / ด้วยความเคารพอย่างสูง
ในการรับฟังพยานหลักฐานนั้นขึ้นอยู่กับผู้รับฟังว่าเมื่อเห็นพยานหลักฐานเช่นนั้นแล้วจะเชื่อโดยสนิทใจหรือไม่ว่าเขาทำความผิด โดยไม่จำเป็นต้องมีพยานรู้เห็นกับตา แม้แต่ในคดีอาญาก็สามารถฟังพยานแวดล้อมที่ปราศจากข้อสงสัยรับฟังเอาผิดแก่จำเลยได้ ดังเช่น คดีที่นายแพทย์ถูกกล่าวหาว่าฆ่าภรรยาที่แพทย์ ก็ไม่มีใครเห็นการกระทำโดยตรง แต่ศาลก็ฟังจากพยานแวดล้อมที่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์ ปัญหาของคุณจึงขึ้นอยู่กับว่าคู่กรณีมีเหตุอันควรจะอ้างได้หรือไม่ว่าการไปอยู่ด้วยกันนั้นเป็นของปกติธรรมดาของคนรู้จักกัน ในแง่ของการลงโทษทางวินัยหากไม่ได้ความว่ากระทำผิดแต่พฤติการณ์มีมลทินมัวหมองก็สั่งให้ออกจากราชการได้