เรียน ท่าน มีชัย
ก่อนเข้าคำถามผมรู้สึกซึ้งใจกับคำกลอนอวยพรปีใหม่จากท่าน แต่ก็ยังอยากจะแปลงบางตอน เช่น
" คนปลิ้นปล้อน ทุจริต คิดไม่ดี เก่งสร้างภาพ อย่าไปเลือก ให้อัปรีย์"
คำถามผมมีว่า ผมเป็นผู้ปกครองนักเรียนใน ร.ร. สาธิต คนหนึ่ง และมีโอกาสได้สนทนากับบรรดาผู้ปกครองอีกหลายๆท่าน ทุกท่านบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ในระยะหลังนี้ ค่าเล่าเรียนเพิ่มขึ้นแพงมาก ส่วนคุณภาพการศึกษาก็ยังเหมือนเดิม เด็กไม่กล้าบ่น ผู้ปกครองบางส่วนก็ไม่กล้าบ่นเพราะกลัวจะมีผลต่อลูกหลาน แต่ที่เห็นชัดคือ ค่าตอบแทนผู้บริหารฯ หัวหน้าหมวดฯ อาจารย์ก็เพิ่มมากขึ้นอย่างมาก ถามไปถามมาทราบว่านี่เป็นนโยบายของนายกสภาฯที่สั่งการลงมา ซึ่งก็คือตัวท่าน ผมในฐานะเป็นตัวแทนของผู้ปกครองส่วนหนึ่ง ก็อยากถามท่านว่า ท่านคิดอย่างไรที่มีนโยบายทำให้ค่าเล่าเรียน การศึกษาแพงขึ้น
ผู้น้อย
เรียน ผู้น้อย
ไม่มีใครมีนโยบายทำให้ค่าเล่าเรียนแพงขึ้น เพราะมหาวิทยาลัยไม่มีนโยบายในเชิงธุรกิจการค้า ค่าเล่าเรียนจะถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับว่ามหาวิทยาลัยมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเท่าไร และรัฐจัดสรรงบประมาณมาให้เท่าไร เพียงพอหรือไม่ ถ้าให้งบประมาณมาเพียงพอ การเก็บค่าเล่าเรียนก็ถูก จะเก็บพอเป็นพิธีหรือไม่เรียกเก็บเลยก็ได้
อันโรงเรียนสาธิตนั้น เป็นโรงเรียนที่มหาวิทยาลัยจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งในการฝึกสอนและหาต้นแบบที่ดี ในการให้ความรู้แก่เด็ก คุณภาพของอาจารย์จึงต้องดี และมีอุปกรณ์การศึกษาที่ครบถ้วนสมบูรณ์ มีบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดี สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถจะหามาได้เปล่า ๆ และรัฐก็มิได้จัดสรรงบประมาณมาให้ รัฐเพียงจัดสรรงบประมาณให้เกี่ยวกับอัตรากำลังเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่าใช้จ่ายที่ให้มาก็ไม่แตกต่างไปจากการจัดสรรให้แก่โรงเรียนของรัฐทั่ว ๆ ไป ด้วยกำลังเงินที่รัฐจัดสรรให้เพียงเท่านั้นจึงย่อมไม่เพียงพอแก่การที่จะดำเนินการโรงเรียนสาธิตให้อยู่ในระดับดีได้ และถ้าจะจัดไปตามกำลังเงินเท่าที่รัฐให้มา ผลก็คงไม่แตกต่างไปจากโรงเรียนของรัฐทั่ว ๆ ไป ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็คงไม่มีผู้ปกครองคนใดอยากนำลูกมาเรียนในโรงเรียนสาธิต
การจะกดเงินเดือนครูอาจารย์ให้น้อยลงจนอยู่กันไม่ได้ หรืออยู่ได้อย่างกระท่อนกระแท่น ต้องเป็นหนี้เป็นสินเขานั้น คิดหรือว่าเป็นธรรมแล้ว และจะเกิดผลดีต่อการศึกษาของเด็ก