เรียนถาม อ.มีชัยครับ

ผมมีเรื่องพิพาทกับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง รถยนต์ผมถูกรถที่มีประกันของบริษัทนั้นชน ในวันที่บริษัทนัดผมไปรับค่าเสียหาย ทางบริษัททำลูกเล่น ตั้งแง่ว่าผมต้องนำซากอะไหล่ไปคืนให้เขาก่อนจึงจ่ายค่าเสียหาย ผมได้โทรไปสายด่วนกรมการประกันภัย ผมถามนิติกรประจำสายนั้นว่า การเรียกร้องทรัพย์ในลักษณะนี้เข้าข่าย การกรรโชกทรัพย์หรือไม่ นิติกรตอบว่าเข้าข่าย ผมจึงได้ร้องเรียนพฤติกรรมของบริษัทแห่งนั้นไปที่ website ระฆัง ส่งเรื่องต่อไป-> กรมการประกันภัย หลังจากนั้นประมาณ 2-3 เดือน นิติกรกรมการประกันภัย แจ้งผมว่า บริษัทประกันแห่งนั้น แจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทกับผมที่ สน.แห่งหนึ่ง และนิติกรคนนั้นยังบอกผมว่าหากบริษัทกระทำความผิดทางอาญาจริงก็ไม่ใช่หน้าที่ของกรมการประกันภัย จะไปฆ่า ข่มขืนใคร ไม่รับรู้ด้วย ซึ่งตรงนี้ต่างจากที่ นิติกรอีกสองคนที่ผมได้ติดต่อ บอกผมว่า หากพิสูจน์ได้ว่า ผู้บริหารบริษัทมีเจตนาทุจริต โทษอาจถึงระงับใบอนุญาตบริษัทเลย ผมจึงได้ร้องเรียนพฤติกรรมของนิติกร กรมการประกันภัยไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา รออยู่ประมาณ 6 เดือน ทางสำนักงานมีหนังสือตอบผมว่า ทางกรมการประกันภัยได้ดำเนินการปรับบริษัทแห่งนั้นจำนวนหนึ่งในอีกข้อหาหนึ่งคือประวิงการจ่ายสินไหม แต่ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ในข้อหาที่ผมแจ้งไปทีแรกว่ามีพฤติกรรม กรรโชกทรัพย์ ผมจึงได้ทำหนังสือท้วงไปยังสำนักผู้ตรวจการฯ ว่าประเด็นการกระทำของบริษัทนั้นหากเข้าข่ายความผิดอาญา แล้วทำไมกรมการประกันภัยเมื่อรับรู้เรื่องจึงไม่ดำเนินการสอบสวน แต่กลับเปิดเผยข้อมูลให้กับบริษัท เข้าข่ายเจ้าพนักงาน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ รอมาประมาณ 8 เดือน เรื่องก็ยังเงียบอยู่ ผมขอเรียนถาม อ.ดังนี้ครับ

1. ผมสามารถ ฟ้องอธิบดีกรม กองนิติการ นิติกร ทางศาลปกครองได้หรือไม่ หรือ ว่าต้องไปฟ้อง ศาลไคฟง

2. เวลาฟ้องศาลปกครองนี่ ผมจะไปหาทนายที่ไหนครับ ค่าใช้จ่ายในการเรียกร้องหาความยุติธรรมนี่แค่ไหนครับ ปัจจุบัน รถซ่อมเสร็จแล้วครับ แต่ยังโมโหอยู่

3.มีอายุความไหมครับ เพราะ นี่ก็ปาเข้าไป จะ 2 ปีอยู่แล้ว

4.หน่วยงานที่รับเรื่องร้องเรียน web ระฆัง หรือ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ทำไมทำงานเหมือนบุรุษไปรษณีย์  ผมไปร้องเขา เขาก็ส่งหนังสือต่อไปให้ต้นสังกัด ต้นสังกัดตอบมาก็ส่งสำเนามาให้ผม ทำไมหน่วยงานเหล่านี้ ไม่เคยพิจารณาเรื่องหรือติดตามเรื่องอะไรเลย จนบัดนี้ผมก็ยังไม่ได้หนังสือตอบจาก ระฆังเลย

ขอบพระคุณอย่างสูงครับที่สละเวลาให้

เรียน คุณช้าง

     1. ถ้าฟ้องเพราะเขาออกคำสั่งไม่ชอบก็ฟ้องที่ศาลปกครอง แต่เป็นเพราะไม่ชอบใจเขา ก็คงต้องฟ้องศาลพระภูมิกระมัง

     2. เห็นสำนักงานทนายความที่ไหนก็ลองเข้าไปถามดู  เวลาก็ผ่านไปนานแล้ว น่าจะคลายความโมโหลงได้บ้าง  การเป็นคดีในศาลไม่ว่าจะเป็นโจทก์หรือจำเลยน่ะ มีแต่ภาระและความทุกข์ร้อนทั้งนั้น ไม่จำเป็นก็อย่างไปทำเลย

     3. นั่นซี ผ่านไปตั้ง ๒ ปี แล้ว จะโมโหไปทำไม การฟ้องคดีที่ศาลปกครองนั้น เขาให้เวลาเพียง ๙๐ วัน เท่านั้นแหละ เขาหวังว่าเมื่อพ้น ๙๐ วันแล้ว ผู้คนก็ควรจะเย็นลงได้

     4. เขาไม่ได้เป็นคนก่อเรื่อง เขาก็ต้องถามไปยังหน่วยงานที่เป็นต้นเหตุเพื่อจะได้รู้ว่าต้นสายปลายเหตุเป็นอย่างไรเสียก่อน