เรียน ท่านอาจารย์มีชัย
เนื่องจากคุณแม่ได้เสียชีวิตเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินส่วนใหญ่ให้ลูก ๆ และทรัพย์สินส่วนน้อยให้คุณพ่อ (คุณแม่ไม่ไว้ใจคุณพ่อ และทรัพย์สินต่าง ๆ คุณแม่ก็เป็นผู้หามาแทบทั้งสิ้น)
เมื่อคุณพ่อทราบเรื่องพินัยกรรมว่าตนเองได้น้อยจึงนำพินัยกรรมแอบเก็บไว้ แต่ลูก ๆ ทราบจึงขอดู จึงมีเรื่องหมางใจกันในครอบครัว ลูก ๆ กลัวเรื่องจะบานปลายและไม่อยากทำร้ายจิตใจคุณพ่อ ดังนั้นเมื่อคุณพ่อดำเนินการร้องขอตั้งท่านเป็นผู้จัดการมรดก (แบบไม่มีพินัยกรรม) ลูก ๆ จึงตามใจคุณพ่อ ยอมเซ็นยินยอมกันทุกคน ผ่านมาไม่ถึงครึ่งปี คุณพ่อแอบพาผู้หญิงเข้าบ้าน ใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือยมาก สร้างความทุกข์ใจให้กับลูก ๆ เป็นอย่างมากเพราะสิ่งที่คุณแม่กลัวได้เกิดขึ้นแล้ว (ลูก ทุกคนต่างแยกย้ายไปสร้างครอบครัวของตน ) ลูก ๆ ไม่มีใครได้รับมรดกอะไรเลย แถมก่อนเกิดเรื่องเงินประกันชีวิตที่คุณแม่มอบให้ลูกเป็นผู้รับผลประโยชน์ ลูก ๆ ก็โอนให้คุณพ่อไว้ใช้จ่ายอีกด้วย
ขอเรียนถามดังนี้
1 ลูก ๆ สามารถฟ้องคุณพ่อ(ในฐานะผู้จัดการมรดก) ให้แบ่งมรดก (ตามพินัยกรรม) ได้หรือไม่คะ ?
2 ทรัพย์สินที่เป็น ทองคำ เพชรพลอย คุณแม่สะสมไว้เยอะมากแต่ท่านไม่ได้แจกแจงรายการไว้ในพินัยกรรม และลูกทุกคนก็ไม่เคยเข้าไปวุ่นวายกับของพวกนี้ เคยแต่ซื้อให้ท่าน ตามวาระสำคัญต่าง ๆ บางชิ้นก็เคยเห็นเพราะท่านเคยเอามาเล่าประวัติให้ฟัง --- แต่คุณพ่อบอกหาไม่เจอแล้ว (ทั้ง ๆ ที่ปกติเคยเก็บในตู้เชฟ ) ในคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก คุณพ่อก็ไม่แถลงไว้ด้วย จะทำอย่างไรกับทรัพย์ส่วนนี้ได้บ้างคะ ?
ขอกราบรบกวนอาจารย์ด้วยค่ะ
รุจิรา และน้อง ๆ
1. ฟ้องได้ แต่ต้องไปร้องขอให้อัยการฟ้องให้ เพราะลูกฟ้องพ่อโดยตรงไม่ได้ กฎหมายเรียกว่าเป็น คดีอุทลุม
2. เมื่อถอนผู้จัดการมรดกและตั้งผู้จัดการมรดกคนใหม่แล้ว ผู้จัดการมรดกก็มีอำนาจที่จะเข้าไปตรวจสอบหรือเรียกให้คนที่ครอบครองนำมาส่งมอบได้
เรื่องนี้อาจเข้าใจผิดมาแต่ต้น เพราะทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างสมรส (เว้นแต่ชิ้นใดที่ลูก ๆ ซื้อให้แม่) ย่อมเป็นสินสมรส เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดตาย ต้องแยกสินสมรสออกเป็น ๒ ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นของผู้ตาย อีกส่วนหนึ่งเป็นของผู้ยังอยู่ ในส่วนของผู้ตายนั้นเป็นมรดกตกทอดได้แก่สามีกับลูก ๆ คนละเท่า ๆ กัน สำหรับทรัพย์สินที่ลูก ๆ ซื้อให้แม่นั้น เป็นสินส่วนตัวของแม่ จึงไม่ต้องแบ่งให้พ่อครึ่งหนึ่งก่อน แต่ตกเป็นมรดกที่ได้กับลูกและพ่อคนละเท่า ๆ กัน