ขอขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างสูง จากครั้งก่อนที่ได้คำตอบเรื่องที่ทำกิจการในที่และต้องแบ่งพี่ครึ่งหนึ่งตามสิทธิ ก็ได้ความกระจ่างทันก่อนไปประชุมอย่างรู้สิทธิและหน้าที่ตนเองมากขึ้น
แต่ขอเรียนรบกวนถามอาจารย์เพิ่มเติมอีกนะคะ คือเรื่องเงินฝากในบัญชีชื่อแม่ แต่เดิมแม่กับน้าทำร้านขายของร่วมกันมานาน โดยแม่เป็นคนวิ่งเรื่องฝากถอนธนาคารชื่อในบัญชีกิจการจึงเป็นชื่อแม่คนเดียวเพื่อความสะดวกแล้วให้น้าสั่งของขายของ เงินได้มาก็ใช้ในครอบครัวแม่กับน้า(พ่อดิฉันเสียแต่เล็กมาก) ดิฉันและพี่ก็ทราบเรื่องนี้ดีพอแม่ป่วยก็ใช้เซ็นใบถอนทิ้งไว้ให้น้าเบิกทำกิจการต่อได้ แต่หลังแม่เสียดิฉันในฐานะผู้จัดการมรดกก็ไปปิดบัญชีพร้อมน้าแล้วหักยอดเจ้าหนี้การค้าที่ร้านสั่งของไว้ให้น้าไปจ่าย ที่เหลือก็แบ่งกับน้าคนละครึ่ง กิจการให้น้าไป จัดการต่อคนเดียว ที่ดินอื่นที่มีให้ดิฉันกับพี่มา เงินส่วนที่ดิฉันรับมาก็นำเข้าเป็นเงินส่วนกลางไว้ใช้กับพี่ ซึ่งพอพี่เบิกเท่าไรดิฉันก็หักส่วนของดิฉันไว้เท่านั้นด้วย
ผ่านมาประมาณ 10 ปีครึ่งนี่แล้ว พี่บอกให้แบ่งเงินส่วนกลางที่เหลือให้เรียบร้อยจึงแบ่งไปคนละครึ่ง แต่เหลือน้อยพี่ไม่พอใช้ จึงจะไปเอาจากน้าเพิ่ม โดยอ้างว่าเงินในบัญชีชื่อแม่เป็นของแม่คนเดียวไม่รับรู้เรื่องอื่น น้าและดิฉันโกงจะไปฟ้องศาล เอาทั้งหมด น้าแก่แล้วเครียดมาก กิจการก็ขายไม่ค่อยดี เรียนถามนะคะ
1-2 หมดอายุความแล้ว คงฟ้องไม่ได้แล้ว
3. จะถูกฟ้องเป็นคดีอาญาหรือไม่ตอบไม่ได้ เพราะพี่ชายคุณเป็นคนฟ้อง แต่ถ้าเขาฟ้องคุณก็มีหนทางต่อสู้ได้ เพราะคุณไม่ได้ทุจริต ได้ทำไปตามหน้าที่ของผู้จัดการมรดกแล้ว ข้อสำคัญเวลาถูกฟ้องก็ควรหาทนายความไปต่อสู้คดี อย่าปล่อยเฉย
4. ก็ควรแบ่ง ๆ กันไปให้เรียบร้อย
5. ก็อาจเป็นปัญหาอยู่บ้างว่าเหตุใดคุณจึงเอาที่ดินไปขาย ทำไมไม่แบ่งที่ดินให้ตามสิทธิของแต่ละคน ซึ่งคุณก็คงต้องหาเหตุผลไปต่อสู้ หากจะถูกฟ้องร้องขึ้น