เรียนอาจารย์
คือดิฉันเป็นผู้จัดการมรดกของแม่ เมื่อแม่ตายลงตั้งแต่ปี 41 มีพี่รวมกับดิฉันเป็นลูกแค่ 2 คน ต่อมาปี 42 ก็ได้จัดการโอนที่ดินมรดกให้เป็นชื่อร่วมกันระหว่างพี่น้อง ก็แสดงว่าที่ดินนี้พ้นจากการเป็นที่มรดกแล้วใช่ไหมคะ ต่อมาปี 44 ดิฉันและสามีก็ได้ติดต่อจัดการหาผู้เช่าได้และมาทำสัญญาเช่าระยะยาวเรียบร้อย ผู้เช่าได้จ่ายเงินเต็มจำนวนตลอดมาเดือนละ 50000 บาท ซึ่งพี่ก็ได้รับทราบตลอดและลงชื่อร่วมในสัญญาเช่าในฐานะเจ้าของที่ร่วม แต่ไม่ได้คุยกันเป็นที่แน่นอนว่าจะแบ่งค่าเช่าให้พี่เท่าไร ได้ค่าเช่ามาก็จัดการใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ทั้งเรื่องมรดกและค่าใช้จ่ายส่วนตัวของทั้งสองคนมากน้อยตามที่ร้องขอกัน ก็ได้ให้ไปตลอดและจ่ายเป็นรายเดือนให้พี่อีกประมาณ 10000 ต่อเดือน พี่ก็รับไปไม่ว่าอะไรตลอดมา
ต่อมาพี่ขอแบ่งมรดกให้เรียบร้อยไป ที่ดินส่วนอื่นที่ขายได้ก็จัดการขายไปเอาเงินมาแบ่งครึ่งหลังหักค่าใช้จ่าย แต่ส่วนค่าเช่านี่พี่จะขอครึ่งหนึ่งไปเลยตลอดทุกเดือน และจะเรียกร้องครึ่งหนึ่งของส่วนที่ผ่านมาทั้งหมดด้วย ขอเรียนถามว่าจะต้องให้ค่าเช่าพี่ตามที่พี่ขอหรือเปล่าคะ พี่จะใช้กฎหมายข้อไหนมาบังคับ พี่ให้ทนายมาติดต่อเรื่องขอแบ่งมรดกทั้งหมดรวมทั้งค่าเช่านี้ด้วย สามีบอกเราทำกันมาติดต่อเหนื่อยยากกว่าจะได้สัญญาเช่ามา จะมีทางตกลงไม่ให้ค่าเช่าครึ่งหนึ่งได้ไหมคะ ทั้งที่ผ่านมาและต่อไป
ส่วนคำถามอีกข้อ คือที่ดินที่จัดการขายไปแล้ว ต้องเสียค่านายหน้าที่ไม่ใช้บริษัท จึงไม่มีใบเสร็จค่านายหน้าที่จ่ายไป หักค่าใช้จ่ายได้ไหมคะ พี่บอกจะตรวจสอบค่าขายจริงแล้วเรียกครึ่งหนึ่ง ไม่งั้นจะหาว่าเรายักยอกทรัพย์ จริงหรือเปล่าคะ ทำยังไงดีคะ พรุ่งนี้ต้องไปเจรจาก่อนแล้วด้วยค่ะ
รัชนี