บ้านเราอยู่บนเนื้อที่600ตร.ว.แต่เป็น 3 โฉนดที่ดิน โฉนดละ200ตร.ว. โฉนดแปลงซ้ายริมเป็นชื่อพี่ชาย ตรงกลางเป็นชื่อแม่ ริมขวาเป็นชื่อดิฉัน(โอนให้ก่อนแต่งงานยังเป็นนามสกุลเดิม ตอนนี้ดิฉันแต่งงานใช้นามสกุลสามี) บ้านเป็นชื่อแม่แม่บอกว่าจะยกให้เราสองคน แม่ยกที่และทรัพย์สินบางส่วนให้พี่อีกสามคนไปแล้ว  เรามีพี่น้อง 5 คน(เสียชีวิต 1 คน)ทุกคนมีครอบครัวแล้ว  ตอนนี้แม่กับพี่ชายต้องการสร้างอาคาร3ชั้นด้านหน้าที่ดินซึ่งเป็นที่ว่างเพื่อค้าขายซึ่งที่ดินส่วนดังกล่าวเป็นชื่อของดิฉัน ดิฉันขอเรียนถามว่า

1.ผู้ขออนุญาตก่อสร้างเป็นพี่ชาย (แม่แก่แล้ว) และผู้อนุญาติให้ใช้ที่ดินเป็นดิฉัน ถ้าต่อไปจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับที่ดินและกรรมสิทธิที่ดินหรือไม่อย่างไร

2.ถ้าผู้ขออนุญาตก่อสร้างเป็นชื่อ 2 คน คือดิฉันและพี่ชาย จะถือว่าพี่ชายเป็นเจ้าของร่วมในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหรือไม่

3.ผู้ขออนุญาติปลูกสร้างกับเจ้าของบ้าน เป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่

4.จะต้องทำอย่างไรให้ถูกต้องที่สุด ไม่อยากมีปัญหาในภายหลัง

5. สามารถเข้าข่ายการครอบครองปรปักษ์ หรือไม่ หากดิฉันอนุญาตให้พี่ชายสร้างอาคารบนที่ดินของดิฉัน และต่อมาหากพี่ชายเสียชีวิต ภรรยาและบุตรของพี่ชายจะสามารถอ้างสิทธิเป็นเจ้าของได้หรือไม่ เช่นเดียวกันหากดิฉันเสียชีวิต สามีของดิฉันสามารถอ้างสิทธิเรียกคืนได้หรือไม่ (ดิฉันไม่มีบุตร)

6.ถ้าหากพี่ชายไปปลูกสร้างอาคารบนพื้นที่ของแม่ (ตรงกลาง) ต่อมาถ้าแม่เสียชีวิตอาคารนี้จะตกเป็นของใครบ้าง

6.ถ้าแม่ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ หากท่านเสียชีวิต(พ่อยังอยู่) กรรมสิทธิในบ้านที่อยู่จะเป็นอย่างไรและหากพ่อเสียชีวิตก่อนแม่ จะเป็นอย่างไร เนื่องจากพ่ออายุแปดสิบกว่าและแม่เจ็ดสิบกว่าแล้วค่ะ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์มีชัย มา ณ ที่นี้ ค่ะ

1. ถ้าอาคารนั้นได้ยกให้คุณ ก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ได้ยกให้คุณ โดยยกให้คนอื่น หรือต้องแบ่งกันระหว่างพี่ ๆ น้อง ๆ ก็อาจเกิดปัญหาขึ้นได้ เพราะเจ้าของที่ดินเป็นคนหนึ่ง และอาคารเป็นของอีกคนหนึ่ง

2. การเป็นผู้ขออนุญาตปลูกสร้างอาคาร ไม่ทำให้ผู้เป็นเจ้าของอาคารกลายเป็นเจ้าของที่ดินไปด้วย

3. ไม่เป็นจำเป็นเสมอไป

4. ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะให้อาคารที่ปลูกสร้างขึ้นใหม่เป็นของใคร

5.  ถ้าคุณอนุญาตให้เขาใช้ที่ดินปลูกสร้างอาคาร ก็ไม่ทำให้เขาอ้างการครอบครองปรปักษ์ได้

6. ถ้าแม่ไม่ได้ระบุไว้ในพินัยกรรมว่าจะยกให้ใคร อาคารนั้นก็จะตกเป็นมรดกได้แก่ลูก ๆ ทุกคนและพ่อ (ถ้ายังอยู่)

7. ถ้าพ่อยังอยู่ก็ต้องเป็นของพ่อครึ่งหนึ่ง(ในฐานะเป็นสินสมรส) ที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งจึงตกเป็นมรดกได้แก่ลูก ๆ ทุกคนและพ่อ