ต่อจาก 035636
เรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพ
ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะสำหรับคำตอบ 035636 ถ้าพิสูจน์ลายเซ็นต์แล้วเป็นลายเซ็นต์ปลอมพี่สาวก็คงจบ แต่ถ้าพิสูจน์แล้วผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นลายเซ็นต์ของพ่อซึ่งพ่อก็เสียชีวิตไปแล้ว ดิฉันขอเรียนถามเพิ่มเติมดังนี้นะคะ
1. ถ้าดิฉันให้พิสูจน์ต่ออีกว่าลายเซ็นต์ที่คู่กันกับคุณพ่อเป็นลายเซ็นต์จริงของพี่สาวหรือไม่ ซึ่งมั่นใจว่าใช่ค่ะ พี่สาวก็ต้องรู้เรื่อง จะอ้างว่าตนไม่รู้เรื่อง คุณพ่อเป็นคนทำเอง การเบิกความเช่นนี้ในศาลเป็นการเบิกความเท็จหรือไม่
2. ถ้าพิสูจน์แล้วลายเซ็นต์น่าจะเป็นของบิดา ศาลจะสั่งยกฟ้องฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมเลยหรือไม่คะ (โดยไม่พิจารณาความเป็นไปได้ว่าคุณพ่อไม่มีทางไปเซ็นต์ที่ธนาคารได้เลย ดิฉันและน้องๆเป็นพยานได้ คุณพ่ออยู่โรงพยาบาลตลอด 6 วันก่อนเสียชีวิต ให้นัำเกลือตลอดและระบุชัดในใบมรณบัตร ว่า พักอยู่ รพ 6 วันก่อนเสียชีวิต ส่วนใบยินยอมทำก่อนเสียชีวิตเพียง 3 วัน )
3. ถ้าเจ้าหน้าที่ธนาคารมาให้การยืนยันว่าตามหลักการเอกสารนี้ผู้ยินยอม(คุณพ่อ)ต้องมาเซ็นต์ที่ธนาคารต่อหน้าเจ้าพนักงานซึ่งตามเอกสารคำยินยอมนี้ก็ระบุไว้ชัดเจนว่าได้เซ็นต์ต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ธนาคาร ซึ่งแน่นอนถ้าไม่เบิกความเช่นนั้นธนาคารก็ผิดอยากทราบว่าในความเห็นของอาจารย์ระหว่าง คำเบิกความของทายาทรวมทั้งเอกสารใบมรณบัตรที่ระบุว่าคุณพ่ออยู่โรงพยาบาลในวันที่มีการเซ็นต์ยินยอม กับ คำให้การพนักงานธนาคารและเอกสารธนาคารที่ระบุว่าผู้ยินยอม(คุณพ่อ)ได้มาเซ็นต์เอกสารที่ธนาคารต่อหน้าเจ้าพนักงาน และลายเซ็นต์พิสูตรแล้วว่าน่าจะเป็นของบิดาอันไหนมีนํ้าหนักน่าเชื่อถือมากกว่ากันคะ
4.อายุความ 10 ปี เริ่มนับตั้งแต่ที่ดิฉันเห็นเอกสารธนาคารใช่หรือไม่ค่ะ เพราะเพิ่งทราบปีนี้เองค่ะ
5. ตัวดิฉันเองในฐานะผู้จัดการมรดกถ้าฟ้องพี่สาวฐานปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอมแล้วศาลยกฟ้อง พี่สาวดิฉันจะสามารถฟ้องกลับดิฉันในข้อหาใดได้บ้างคะ
6.ถ้าดิฉันไม่ทำอะไรเลย น้องๆจะฟ้องพี่สาวเองเลยก็ได้ ใช่หรือไม่ค่ะ
ขอบคุณอาจารย์อย่างสูงค่ะ ดิฉันจำเป็นต้องคำนึงถึงผลได้เสียทั้งหมดอย่างรอบคอบ ดิฉันเชื่อถืออาจารย์มากและขอขอบคุณอาจารย์อีกครั้งที่สละเวลาจรรโลงความยุติธรรมให้สังคม ขอคุณพระศรีรัตนตรัยช่วยบันดาลให้อาจารย์อายุมั่นขวัญยืนนะคะ
|