เรียน อ.มีชัย
ขอบพระคุณมากครับ ผมได้รับคำตอบจาก อ. เรื่องการรับมรดกและการตั้งผู้จัดการมรดกของหลานแล้วครับ (คำถามที่ 033588) มีเรื่องสอบถามเพิ่มเติมครับ ผมได้คุยกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอัยการจังหวัด ในการขอตั้งผู้จัดการมรดกแล้ว ในเรื่องรายการทรัพย์สิน มีที่ดิน และบัญชีเงินฝากธนาคาร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการแนะนำให้ยื่นทั้ง 2 รายการ แต่ส่วนตัวผมคิดว่าจะยื่น 1 รายการ คือที่ดิน ส่วนบัญชีเงินฝากธนาคารมีชื่อผมอยู่ด้วยสามารถเบิกได้ จะเบิกมาเป็นค่าจัดการงานศพและทำบุญตามที่ป้าสั่งไว้ (แต่ยังไม่ได้ถามธนาคารว่าจะปิดบัญชีได้หรือไม่) จึงขอเรียนถาม ดังนี้1. จะขอยื่น 1 รายการคือที่ดิน ได้หรือไม่ แล้วจะมีปัญหาตามมาภายหลังหรือไม่หากไม่ยื่นบัญชีเงินฝากไปด้วย2. สำหรับเงินในบัญชีเงินฝากซึ่งทางกฎหมาย หลานๆทุกคนคงมีส่วนได้รับด้วย แต่ป้าเขียนสั่งไว้ให้ทำบุญให้หมด ซึ่งผมจะทำตามที่ป้าสั่งไว้ (หนังสือที่เขียนสั่งไว้ผมให้ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการดูแล้ว ท่านว่าไม่เป็นพินัยกรรม) เงินส่วนนี้จะจัดการอย่างไรให้ถูกต้อง ไม่ให้มีปัญหาถูกฟ้องร้องขอแบ่งภายหลัง3. หากต้องยื่นบัญชีเงินฝากไปด้วย ผมจะเบิกค่าใช้จ่ายบางส่วนที่จ่ายไปแล้วก่อนยื่นขอตั้งผู้จัดการมรดกได้หรือไม่ (หลังจากที่ป้าเสียยังไม่มีการเบิกจ่ายจากบัญชีธนาคารจนถึงปัจจุบัน)
ขอบพระคุณมากครับ
-โมกซ้อน-
เรียน หลาน
1. ถ้าคุณไม่ยื่นก็อาจเกิดปัญหาในภายหลังว่าคุณมีเจตนาจะเบียดบังทรัพย์มรดกได้ ถ้าข้อเท็จจริงปรากฏในชั้นพิจารณาของศาล ๆ อาจไม่วางใจให้คุณเป็นผู้จัดการมรดกก็ได้ การแจ้งว่าผู้ตายมีทรัพย์สินอะไร กับการถอนเงินจากธนาคาตามสิทธิที่คุณมีอยู่ เป็นคนละเรื่องกัน ถ้าคุณยังมีสิทธิอย่างไร คุณก็ยังมีสิทธิอยู่อย่างนั้น เมื่อเวลาถอนเงินมาก็บันทึกไว้ว่าถอนมาเท่าไร เอาไปทำอะไร จะได้ไว้แสดงให้ทายาทคนอื่นดูได้
2. ก็ควรแจ้งให้ทายาทคนอื่น ๆ เขาทราบ หากเขาไม่ขัดข้องก็จะได้ดำเนินการไปตามคำสั่งเสียของผู้ตายได้
3. เมื่อเป็นผู้จัดการมรดกแล้วคุณก็มีอำนาจในการจัดการทรัพย์สินได้