กราบเรียนคุณ มีชัย

ดิฉันมีข้อสงสัยขอเรียนถามคุณมีชัยเพื่อเป็นทางสว่างแก่ดิฉันด้วยค่ะ

ย่าดิฉันมีบุตร 2 คน มีที่ดินและบ้าน ซึ่งท่านมิได้ทำพินัยกรรมไว้ก่อนตายคุณพ่อดิฉันซึ่งเป็นบุตรของคุณย่า ท่านไม่สบายเนื่องจากเคยมีเลือดออกในสมอง ทำให้ท่านไม่ค่อยแข็งแรงและการพูดของท่านก็มีปัญหาเนื่องจากเลือดไปกดทับเส้นประสาทการพูดทำให้ท่านพูดไม่ค่อยชัด และคุณอาดิฉันกล่าวหาว่าคุณพ่อดิฉันมีอาการทางประสาท ในตอนจัดงานศพคุณย่า อาดิฉันได้เสนอว่าจะให้ใครเป็นผู้จัดการมรดก ดิฉันแจ้งความจำนงในการเป็นผู้จัดการมรดก แต่พอภายหลังอาดิฉันเปลี่ยนใจและเสนอว่าให้โฉนดที่ดินยังเป็นชื่อของคุณย่า อาอ้างว่าการทำโฉนดที่ดินให้เป็นชื่ออากับพ่อนั้นค่าใช้จ่ายเยอะ ดิฉันซึ่งเป็นหลานก็ไม่สามารถคัดค้านใดๆได้ ดิฉันขอเรียนถามคุณมีชัยค่ะว่า

1 คุณอาสามารถทำให้ที่ดินและบ้านเป็นของตนเองได้ไหมค่ะ

2 หากคุณพ่อดิฉันเป็นอะไรไปคุณอาสามารถเอาทรัพย์สินในส่วนที่น่าจะเป็นของพ่อดิฉันไปได้ไหมค่ะ

3 โฉนดที่ดินยังเป็นชื่อคุณย่าจะมีปัญหาไหมค่ะ

4 ครอบครัวดิฉันจะโดนอาโกงไหม

5 คุณมีชัยมีข้อแนะนำเพิ่มเติมให้กับดิฉันไหมค่ะ

ขอบคุณคุณมีชัยมากๆค่ะเพราะดิฉันไม่รู้จะทำอย่างไรดีเพราะมีแค่ดิฉันและพ่อสองคน และอาดิฉันเป็นคนที่พูดด้วยยากและเห็นความคิดตัวเองดีที่สุด ขอบคุณมากๆค่ะ

เรียน ปูชิตา

1. ถ้าเขาแอบไปร้องศาลเพื่อให้ตั้งเขาเป็นผู้จัดการมรดกคนเดียว เขาก็อาจโอนเป็นของเขาได้ ซึ่งคุณก็ต้องตามไปฟ้องร้องเพื่อเอาคืน

2. ถ้าในทางกฎหมายเขาเอาไปไม่ได้เพราะส่วนของพ่อคุณจะตกได้แก่คุณ แต่ในทางปฏิบัติเขาอาจทำตามข้อ 1 กว่าคุณจะรู้ก็อาจสายไปแล้ว

3. ตราบเท่าที่ยังเป็นชื่อย่า ก็ยังปลอดภัย แต่ถ้าเขาทำตามข้อ 1 ก็ไม่ใช่ชื่อย่าอีกแล้ว

4. เห็จะต้องไปถามอาเสียกระมัง ใครจะตอบแทนเขาได้ล่ะ

     ทางที่ดีควรพูดกับอา เพื่อร่วมกันร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกด้วยกัน แล้วดำเนินการแบ่งแยกเสียให้เรียบร้อยไปดีกว่า  ค่าธรรมเนียมการโอนนั้นเสียเพียงร้อยละ ๕๐ สตางค์เท่านั้น