ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    049839 รบกวนเรียนถามอาจารญ์ครับจากคำถาม049826พรพิพัฒน์12 กุมภาพันธ์ 2557

    คำถาม
    รบกวนเรียนถามอาจารญ์ครับจากคำถาม049826

    รบกวนเรียนถามอาจารญ์ครับจากคำถาม049826

    1. -แล้วคุณเข้าใจดีแล้วหรือว่าคดีมโนสาเร่คืออะไร

    ผมขออนุญาตคัดลอกบทความที่ได้ข้อมูลมาผมไม่แน่นใจที่ผมว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ

     

    คดีมโนสาเร่มีวัตถุประสงค์คือ

    1. ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีมโนสาเร่ไม่ว่าจะเป็นค่าขึ้นศาล หรือค่าทนายความ เนื่องจากคดีเหล่านี้มีทุนทรัพย์เพียงเล็กน้อยหากต้องเสียค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกับคดีมีทุนทรัพย์สูงจะไม่คุ้มกับผลที่จะได้รับ และทำให้ผู้ที่มีกำลังทรัพย์มากกว่าเป็นผู้ได้เปรียบในการดำเนินคดี

    2. คู่ความสามารถดำเนินคดีได้เองโดยไม่จำเป็นต้องจ้างทนายความเนื่องจากจะมีการจัดทำแบบพิมพ์คำฟ้อง และคำให้การสำหรับคดีมโนสาเร่โดยเฉพาะซึ่งคู่ความที่ไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมายก็สามารถกรอกข้อความได้เอง และมีนิติกรให้คำแนะนำ และ การดำเนินคดีมีลักษณะไม่เป็นพิธีการคู่ความดำเนินคดีได้ด้วยตนเอง

    3. การพิจารณาคดีจะเริ่มด้วยการไกล่เกลี่ยซึ่งจะทำให้คดีเสร็จไปด้วยความรวดเร็ว เนื่องจากคดีมีทุนทรัพย์เพียงเล็กน้อย คู่ความมีโอกาสตกลงกันได้โดยง่าย การสืบพยานจะใช้วิธีไต่สวน คือ ศาลเป็นผู้ซักถามพยานเอง ส่วนการเลื่อนคดีจะเลื่อนได้ครั้งละไม่เกิน 7 วัน

    คดีมโนสาเร่เป็นคดีเล็กน้อยหรือคดีเบ็ดเตล็ดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งได้บัญญัติเกี่ยวกับวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ไว้ในมาตรา 189 ถึงมาตรา 195 รวม 14 มาตราด้วยกัน ซึ่งแยกออกพิจารณาได้ดังนี้

    (1) ความหมายของคดีมโนสาเร่

    (2) ลักษณะของคดีมโนสาเร่

    (3) การคำนวณทุนทรัพย์คดีมโนสาเร่

    (4) วิธีฟ้องคดีมโนสาเร่

    (5) ค่าขึ้นศาลในคดีมโนสาเร่

    (6) การยื่นคำให้การในคดีมโนสาเร่

    (7) การไกล่เกลี่ยและประนีประนอมยอมความ

    (8) จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ

    (9) คู่ความในคดีมโนสาเร่ไม่มาศาลในวันนัด

    (10) การสืบพยาน (วัดนัดพิจารณา)

    (11) การนั่งพิจารณา

    (12) การทำคำพิพากษาคดีมโนสาเร่

     

     

    ความหมายคดีมโนสาเร่

    คำว่า “มโนสาเร่” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.. 2525 หมายถึงเรื่องเบ็ดเตล็ดหยุมหยิม โดยเรียกคดีเล็กน้อยว่าคดีมโนสาเร่ คดีมโนสาเร่จึงหมายถึง คดีแพ่งที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ไม่เกินสามแสนบาท หรือไม่เกินจำนวนที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา หรือคดีฟ้องขับไล่บุคคลใด ๆ ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่า หรืออาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละสามหมื่นบาท หรือไม่เกินจำนวนที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา (ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 189)

    ลักษณะคดีมโนสาเร่

    คดีมโนสาเร่มี 2 ประเภทคือ

    . คดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ไม่เกิน300,000 บาท หรือไม่เกินจำนวนที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา

    . คดีฟ้องขับไล่ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่า หรืออาจให้เช่าในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละ 30,000 บาท หรือไม่เกินจำนวนที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา

    “คดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้” หมายถึง คดีที่มีทุนทรัพย์ ซึ่งได้แก่ (1) คดีพิพาทกันในเรื่องทรัพย์สินหรือมีการเรียกหนี้เงิน เช่น คดีพิพาทแย่งกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ (2) คดีเรียกทรัพย์คืนหรือให้ใช้ราคาทรัพย์ เช่น ยืม ฝากทรัพย์ เป็นต้น (3) คดีเรียกค่าจ้างตามสัญญาจ้าง เช่น จ้างแรงงาน จ้างทำของ และรับขน เป็นต้น (4) คดีฟ้องเรียกค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทน เช่น ผิดสัญญา ละเมิด เป็นต้น

    ราคาทรัพย์สินกับจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทนั้นต่างกัน คือราคาทรัพย์สินหมายถึง ราคา เช่นฟ้องเรียกคืนรถยนต์คันหนึ่งราคา 300,000 บาท กรณีเช่นนี้เป็นราคาทรัพย์สิน แต่ถ้าฟ้องเรียกรถยนต์คันหนึ่งราคา 300,000 บาท เพราะจำเลย

    วิธีฟ้องคดีมโนสาเร่

    ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 191 บัญญัติว่า “วิธีฟ้องคดีมโนสาเร่นั้น โจทก์อาจยื่นคำฟ้องเป็นหนังสือหรือมาแถลงข้อหาด้วยวาจาต่อศาลก็ได้

    ในกรณีที่โจทก์ยื่นคำฟ้องเป็นหนังสือ หากศาลเห็นว่าคำฟ้องดังกล่าวไม่ถูกต้อง หรือขาดสาระสำคัญบางเรื่อง ศาลอาจมีคำสั่งให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องในส่วนนั้นให้ถูกต้องหรือชัดเจนขึ้นก็ได้

    ถ้าโจทก์มาแถลงข้อหาด้วยวาจาดังกล่าวแล้วให้ศาลบันทึกรายการแห่งข้อหาเหล่านั้นไว้อ่านให้โจทก์ฟัง แล้วให้โจทก์ลงลายมือไว้เป็นสำคัญ”

    จากบทบัญญัติมาตรา 191 นี้จะเห็นว่าการฟ้องคดีมโนสาเร่มี 2 วิธีคือ

    1. ฟ้องแบบคดีสามัญ คือทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาล ในกรณีที่โจทก์ยื่นคำฟ้องเป็นหนังสือนี้ หากศาลเห็นว่าคำฟ้องดังกล่าวไม่ถูกต้อง หรือขาดสาระสำคัญบางเรื่อง ศาลอาจมีคำสั่งให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องในส่วนนั้นให้ถูกต้อง หรือชัดเจนขึ้นก็ได้ (.วิ.แพ่ง มาตรา 191 วรรคสอง)

    2. ฟ้องด้วยวาจา โดยโจทก์แถลงข้อหาด้วยวาจาต่อศาล ในกรณีฟ้องด้วยวาจา ให้ศาลบันทึกรายการแห่งข้อหาเหล่านั้นไว้อ่านให้โจทก์ฟังแล้วให้โจทก์ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ (.วิ.แพ่ง มาตรา 191 วรรคสาม) เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องแล้ว ศาลจะต้องวินิจฉัยว่าเป็นคดีมโนสาเร่หรือไม่

     

    2.-ทำไมถึงอยากให้เป็นคดีมโนสาเร่

    1.ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีมโนสาเร่ไม่ว่าจะเป็นค่าขึ้นศาล หรือค่าทนายความ เนื่องจากคดีเหล่านี้มีทุนทรัพย์เพียงเล็กน้อยหากต้องเสียค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกับคดีมีทุนทรัพย์สูงจะไม่คุ้มกับผลที่จะได้รับ และทำให้ผู้ที่มีกำลังทรัพย์มากกว่าเป็นผู้ได้เปรียบในการดำเนินคดี

    2. คู่ความสามารถดำเนินคดีได้เองโดยไม่จำเป็นต้องจ้างทนายความเนื่องจากจะมีการจัดทำแบบพิมพ์คำฟ้อง และคำให้การสำหรับคดีมโนสาเร่โดยเฉพาะซึ่งคู่ความที่ไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมายก็สามารถกรอกข้อความได้เอง และมีนิติกรให้คำแนะนำ และ การดำเนินคดีมีลักษณะไม่เป็นพิธีการคู่ความดำเนินคดีได้ด้วยตนเอง

               เท่าที่ผมลองถามทนายประมาณ2ท่านให้คำตอบผมว่าค่าใช้จ่ายที่ผมต้องว่าจ้างคดีละประมาณ 50,000.-(ศาลชั้นต้นคิด30,000ถ้าไม่จบไปศาลอุทรณ์คิด10,000ถ้าไม่จบไปศาลฎีกา10,000)2คดีก็ประมาณ 100,000.-)ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างเร็วก็1ปีในแต่ละชั้นศาลไม่รวมค่าที่ต้องชำระศาลและอื่นๆ

            มานั่งคิดยาวๆดูท่าจะต้องคิดใหม่ทำใหม่

                   แต่ถ้าหากเป็นคดีมโนสาเร่ได้จะทำให้ลดค่าว่าจ้างทนายไปได้ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆก็เป็นไปตามค่าชั้นศาล

                     รบกวนขอคำแนะนำอาจารย์ด้วยครับ

                                         ขอบพระคุณอย่างสูง

     

    คำตอบ

    ถ้าที่ดินส่วนที่คุณจะเรียกคืนจากเขามีราคาไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท ก็เข้าข่ายเป็นคดีมโนสาเร่ได้  แต่การดำเนินคดีไม่ได้ง่าย ๆ ถ้าทำไม่ดี คดีที่ควรชนะก็อาจแพ้ได้ เหมือนกับการเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าไปซื้อยามารักษาเอง ก็อาจหายหรือตายได้ ๕๐/๕๐ แต่ถ้าให้หมอเขารักษาให้ อัตราการเสี่ยงก็มีไม่มาก


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    12 กุมภาพันธ์ 2557