คดีล้มละลาย
ธนาคารได้ฟ้องคุณพ่อซึ่งติดหนี้ค่าดอกเบี้ย 1 ล้านบาทให้เป็นบุคคลล้มละลาย (ก่อนหน้านี้ได้มีการประณีประนอมความและธนาคารได้ยึดที่ดินไปแล้ว 2 ครั้งเพื่อชำระเงินกู้ 5 แสนบาท แต่ไม่สามารถชำระในส่วนของดอกเบี้ยได้) ธนาคารได้นัดคุณพ่อไปไกล่เกลี่ยต่อหน้าศาลล้มละลายกลางเมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่งทางเราขอยอมความเพราะไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ ศาลจึงได้นัดตัดสินให้คุณพ่อเป็นบุคคลล้มลายภายในเดือนกันยายน 2548
เนื่องจากปัจจุบันคุณพ่อได้ล้มป่วยความจำเสื่อมเป็นโรคเบาหวานและไม่สามารถเดินได้ไม่มีความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองและไม่สามารถเซ็นต์ชื่อได้และได้อาศัยอยู่ที่บ้านของลูก จึงขอเรียนถามดังต่อไปนี้
1) บ้านที่คุณพ่ออยู่เป็นบ้านของลูก ชื่อลูกเป็นเจ้าของบ้านเป็นผู้ซื้อบ้านและทรัพย์สินในบ้าน ชื่อคุณพ่อเป็นผู้อยู่อาศัย หลังจากที่ฟ้องล้มละลายแล้วเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์และเจ้าหนี้ต่างๆมีสิทธิที่จะเข้ามายึดทรัพย์ในบ้านที่คุณพ่ออยู่หรือไม่ บ้านได้ซื้อเมือเดือนมีนาคม 2546, คุณพ่อได้เข้ามาอยู่เดือนสิงหาคม 2546 ตอนที่คุณพ่อเข้ามาอยู่บ้านนี้ได้ล้มป่วยอย่างหนักได้และเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาล หากมีการยึดทรัพย์ควรจะต้องทำอย่างไรและมีวิธีป้องกันอย่างไร เพราะทรัพย์สินที่อยู่ในบ้านทั้งหมดเป็นของลูกที่เป็นเจ้าของบ้านซื้อหามาเอง เจ้าหนี้มีสิทธิแค่ไหน
2) คุณพ่อมีรถยนต์ที่เป็นชื่อของคุณพ่อเองอยู่ 1 คัน เมื่อล้มละลายแล้ว จะถูกยึดหรือไม่
ในระหว่างในนี้สามารถที่จะขายรถคันนี้ได้หรือไม่ (คุณพ่อเซ็นต์ชื่อไม่ได้ใช้เป็นการประทับมือได้หรือไม่) และหากขายไปเงินที่ได้มาจะถูกยึดกลับคืนไปหรือไม่
3) คุณพ่อมีห้องแถวที่เป็นชื่อของคุณพ่อเองอยู่ 1 ห้อง ในระหว่างสามารถที่จะขายได้หรือไม่ หากขายไม่ได้จะถูกยึดทรัพย์หรือไม่
4) เนื่องจากคุณพ่อเป็นหุ้นส่วนที่ไม่จำกัดความรับผิดชอบของห้างหุ้นส่วนจำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัดได้ก่อสร้างตึกแถวในพื้นที่ของเทศบาล หลังจากสร้างเสร็จแล้วเทศบาลให้สิทธิการเช่าห้องแถวกับห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งปัจจุบันยังมีระยะเวลาเหลืออีกประมาณ 18 ปี หลังจากคุณพ่อถูกล้มละลายไปแล้ว สิทธิการเช่ากับเทศบาลดังกล่าวจะต้องถูกยึดหรือไม่ การล้มละลายของหุ้นส่วนในครั้งนี้มีผลอย่างไรกับห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือไม่
จึงเรียนมาเพื่อรบกวนสอบถาม
ขอขอบพระคุณ |