ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
ค่าส่วนกลาง
ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
อ่านทั้งหมด
มุมของมีชัย
ถาม-ตอบ กับมีชัย
ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่
ส่งคำถาม
คำสำคัญ
ค้นหาใน
หัวข้อ & เนื้อหาคำถาม
ผู้ส่งคำถาม
เลือกประเภทคำถาม-ตอบ
>
การเมือง
|
กฏหมาย
|
เศรษฐกิจ
|
ทั่วไป
|
มรดก
|
แรงงาน
|
ท้องถิ่น
|
มหาวิทยาลัย
|
ราชการ
|
ครอบครัว
|
ล้มละลาย
|
ที่ดิน
|
ค้ำประกัน
|
22128 ค้ำ
|
archanwell.org
|
ล้างมลทิน
|
24687
|
hhhhhhhhhhh
|
คำถามทั้งหมด
... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม
ปิดหน้าต่างนี้
คำถามที่
หัวข้อคำถาม
โดย
วันที่
012142
คำถามต่อเนื่องจาก ask 00341 ( การแก้ไขปัญหาทุจริตในองค์กร )
Anurak J.
12 ตุลาคม 2547
คำถาม
คำถามต่อเนื่องจาก ask 00341 ( การแก้ไขปัญหาทุจริตในองค์กร )
กราบเรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพ ผมได้ทำเอกสารแจ้งกรรมการบริษัท ( แจ้งเฉพาะกรรมการคนภายในครอบครัว 5 ท่าน อีก 3 ท่านที่เป็นกรรมการคนนอกยังไม่แจ้งเพื่อไม่ให้เรื่องเอิกเกริกเกินควร ) และได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานที่ทุจริตเพิ่มเติมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ตค.กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยได้ใช้เอกสารที่ได้รับการตรวจสอบจากสนง.บัญชีเป็นหลักฐาน ( ใช้เอกสารแจ้งความเพียงบางส่วนเท่านั้น ยังเหลือหลักฐานอีกอีกมากที่ยังเก็บไว้ ) ต่อมาในวันที่ 6 ตค.ผมได้มีคำสั่งให้ฝ่ายบุคคลเลิกจ้างพนักงานที่ถูกกล่าวหาและให้หมดสภาพการเป็นพนักงานในข้อหาทุจริตต่อบริษัท และวันนี้ ผมได้พาพนักงานของโรงแรมอีกท่านหนึ่งที่เกี่ยวข้อง รู้เห็นและถูกสั่งให้จัดทำเอกสารในการทุจริตมาแต่ต้นไปให้ปากคำที่โรงพัก ซึ่งพยานก็รับสารภาพว่าถูกสั่งให้ทำเอกสารเท็จ ( เก็บเงินเกินใบเสร็จ ) มาแต่ต้น เท่ากับว่าขณะนี้พยานและเอกสารชัดเจน ขั้นต่อไปของตำรวจคือเชิญพนักงานที่ถูกกล่าวหามาให้ปากคำ แต่อาจารย์ครับ วันนี้ ผู้ใหญ่ของผมที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และเป็นบุพการีด้วยได้ไปที่โรงพักก่อนผมพร้อมกับทนาย และแจ้งกับทางตำรวจว่าตัวของท่านเองรู้เห็นเป็นใจในการทุจริต และเป็นผู้สั่งให้ดำเนินการเอง !?! และพยายามอธิบายให้ตำรวจเข้าใจว่าเป็นปัญหาของครอบครัวและจะดำเนินการจัดการแก้ไขเองโดยไม่ต้องการให้เรื่องยืดเยื้อ ( ซึ่งตำรวจผู้เป็นร้อยเวรได้แจ้งให้ผมทราบหลังจากที่พนักงานที่รู้เห็นการทุจริตและถูกกันเป็นพยานยอมรับสารภาพ และอธิบายกับผมว่าหากเป็นเช่นนี้เท่ากับว่าผู้ใหญ่ออกรับแทน และจะทำให้กลายเป็นผู้ต้องหาด้วย ) ผมได้พยายามอธิบายให้ร้อยเวรเข้าใจว่าผู้ใหญ่ท่านนั้นอาจดำเนินการในขณะที่จิตใจสับสน ว้าวุ่นและคิดมาก และไม่แน่ใจว่าสมควรที่จะมีน้ำหนักให้ตำรวจได้พิจารณารับฟังหรือไม่ เพราะสำหรับผมเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลและเหลวไหลสิ้นดี ทว่าขณะนี้ มีความพยายามที่จะกลับถูกเป็นผิด กลับขาวเห็นดำ โดยมีการพยายามที่จะเปลี่ยนตัวผมจากการเป็นกรรมการผู้จัดการ โดยหวังที่จะกลบเกลื่อนและยุติเรื่องเหล่านี้เสีย โดยผ่านการล็อบบี้ การตำหนิจากญาติพี่น้องบ้าง การปล่อยข่าวจากกรรมการบริษัทบางคนที่มีส่วนได้เสียกับการทุจริตบ้าง ฯลฯ โดยมีเป้าหมายที่จะให้เรื่องเหล่านี้ยุติและหมักหมมคาราคาซังโดยไม่มีการแก้ไขแต่อย่างใดเช่นเดิม ผมได้โทรไปปรึกษาเรื่องนี้กับสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าของจังหวัด และได้รับคำแนะนำจากหัวหน้าส่วนฯ ให้ทำหนังสือคัดค้านการเปลี่ยนแปลงกรรมการผู้จัดการล่วงหน้า ( การเปลี่ยนแปลงกรรมการหรือจดทะเบียนใดๆผมจะต้องเป็นผู้ดำเนินการด้วยตัวเองทุกครั้ง ) ในกรณีที่มีการแอบเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทโดยที่ผมไม่ทราบ อนึ่ง ผมแน่ใจว่าหากทางบสท.ซึ่งขณะนี้ยังเป็นเจ้าหนี้ของบริษัททราบว่าบริษัทมีปัญหาทุจริตอย่างหนักและเมื่อกรรมการผู้จัดการ ( ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้กับบสท.เมื่อปีที่แล้ว ) ได้พยายามแก้ไขปัญหาการทุจริตกลับถูกขัดขวางจากผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการส่วนน้อยแล้ว บสท.จะมีปฏิกริยาอย่างไร เนื่องจากจำได้ว่ามีข้อสัญญาการปรับโครงสร้างหนี้ข้อหนึ่งว่าการเปลี่ยนแปลงกรรมการผู้จัดการจะต้องได้รับการเห็นชอบจากบสท.ก่อน ดังนั้น ใคร่เรียนถามว่า 1. หากผมจะปรึกษาหรือทำหนังสือแจ้งไปที่บสท.โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงกรรมการผู้จัดการจะเป็นการสมควรหรือไม่ และจะมีผลต่อการทบทวนผลการปรับโครงสร้างหนี้ที่ได้อนุมัติมาเมื่อปีที่แล้วหรือไม่ 2. หากผู้ใหญ่ท่านนั้นยืนยันที่จะให้การกับตำรวจว่าเป็นผู้สั่งให้พนักงานดำเนินการทุจริตและเป็นผู้รับเงินเหล่านั้นแทน จะมีผลต่อการดำเนินคดีหรือไม่ และตำรวจสามารถที่จะปฏิเสธการออกรับแทนได้หรือไม่ในเมื่อหลักฐานปรากฏชัดเจนว่าผู้ทุจริตทำเพียงลำพัง ( ในขณะที่สภาพสังขารและจิตใจของผู้ใหญ่ที่เดินขึ้นโรงพักนั้นน่าสงสารและฟ้องอยู่ชัดเจนว่าไม่อยู่ในสภาพจิตใจที่สมบูรณ์ ) 3. หากมีผลจริง การจะดำเนินคดีต่อไปเท่ากับมีผู้ต้องหาเพิ่มคือผู้ใหญ่ของบริษัทและเป็นบุพการีผมเอง ผมสมควรที่จะทำอย่างไรต่อไปครับ 4. หากมีการแอบเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทโดยการทำหลักฐานการเรียกประชุมและบันทึกการประชุมเท็จ โดยที่ผมไม่รับรู้ ผมจะสามารถดำเนินคดีกับทนายหรือผู้ที่ทำเรื่องนี้ได้หรือไม่ ได้โปรดกรุณาชี้แนะด้วยครับ กราบขอบพระคุณอย่างสูง
คำตอบ
เรียน Anurak 1. ในชั้นนี้การทำหนังสือไปยัง บสท. อาจจะก่อให้เกิดในทางที่ยากจะเยียวยาในภายหลังได้ เพราะหาก บสท.ถือว่าเป็นการผิดเงื่อนไข และบอกเลิกสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ก็จะเดือดร้อน 2.- 3. ถึงผู้ใหญ่จะไปรับเฃ่นนั้น ก็เท่ากับเป็นการยืนยันการทุจริต เพียงแต่แทนที่จะมีผู้กระทำความผิดคนเดียว ก็จะกลายเป็นผู้กระทำความผิดหลายคน หรือในกรณีที่หลักฐานบ่งชี้ว่า เป็นการกระทำความผิดคนเดียว การไปให้การของผู้ใหญ่ก็ไม่มีผลเป็นการลบล้างพยานเอกสารได้ อย่างไรก็ตามในกรณีที่เป็นการกระทำความผิดหลายคน ผู้เสียหายอาจไม่ติดใจเอาความกับคนบางคน โดยไม่กล่าวโทษได้ โดยยืนยันกล่าวโทษเพียงพนักงานคนเดียวก็ย่อมทำได้ 4. ถ้ามีการแอบเปลี่ยนแปลงโดยคุณไม่รู้ และไม่มีการประชุมกันจริง คนทำก็ย่อมได้ชื่อว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสาร และนำความเท็จไปแจ้งต่อนายทะเบียน คุณก็ฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนนั้นเสียได้ โดยคุณยังคงบริหารงานต่อไปตามเดิม มีชัย ฤชุพันธุ์ 11 ต.ค. 2547
มีชัย ฤชุพันธุ์
12 ตุลาคม 2547