กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญที่มีคำวินิจฉัยที่ ๙/๒๕๔๙ ที่วินิจฉัยให้การดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๙ จนถึงปัจจุบัน ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่การกำหนดวันรับสมัครเลือกตั้ง การรับสมัครรับเลือกตั้ง การลงคะแนนเสียง การนับคะแนนเสียง และ การประกาศผลการเลือกตั้ง ดังนั้น กระผมจึงขอถามท่านอาจารย์ ดังนี้
๑. เงินค่าสมัครรับเลือกตั้งที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งได้จ่ายให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วันที่ ๒ เม.ย.๔๙ วันที่ ๒๓ เม.ย. ๔๙ และวันที่ ๒๙ เม.ย. ๔๙ คณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องคืนเงินค่าสมัครรับเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครทั้งหมดหรือไม่
๒. กรณีที่ผู้สมัครหรือบุคคลใดได้ยื่นเรื่องร้องเรียนอันเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้และอยู่ในระหว่างการพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด เช่นนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งยังจะต้องดำเนินการตามมาตรา ๑๔๕ (๓) ของรัฐธรรมนูญฯต่อไปหรือไม่ และยังจะต้องดำเนินการทางอาญาแก่ผู้สมัครหรือไม่
๓.กรณีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแล้ว ผู้สมัครยังต้องยื่นบัญชีรายรับ-รายจ่ายภายใน ๙๐ วันหลังจากวันประกาศผลการเลือกตั้งตามมาตรา ๔๒ แห่งพ.ร.ป.การเลือกตั้ง สส. และสว. พ.ศ. ๒๕๔๑ หรือไม่
1. เงินค่าสมัครนั้นเกิดจากการที่บุคคลไปสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งก็มีการเลือกตั้งไปแล้ว เพียงแต่ขบวนการเลือกตั้งนั้นเสียไป เงินที่ชำระไปแล้วจึงไม่อาจคืนได้ แต่ถ้าผู้สมัครคราวที่แล้วเห็นว่าตนได้รับความเสียหาย และความเสียหายนั้นเกิดจากการกระทำของผู้เป็นกรรมการการเลือกตั้ง ก็สามารถไปฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นการส่วนตัวได้
2. เมื่อการเลือกตั้งนั้นถูกเพิกถอนไปแล้ว การดำเนินการต่อไปย่อมไม่เกิดประโยชน์ แต่การกระทำความผิดอาญานั้น ถ้าเรื่องใดเป็นความผิดที่สำเร็จไปแล้ว เช่น ไปสมัครโดยรู้อยู่ว่าตนไม่มีสิทธิสมัคร ความผิดทางอาญาย่อมเกิดขึ้นและสมบูรณ์แล้ว การดำเนินการต่อไปย่อมทำได้
3. เมื่อกระบวนการการเลือกตั้งเสียไป การประกาศผลการเลือกตั้งย่อมเสียไปด้วย ระยะเวลา ๙๐ วันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้งจึงไม่น่าจะมีอยู่