เรียน คนตามข่าว
1. การจะกระทบกระเทือนหรือไม่ย่อมขึ้นอยู่กับกฎหมายจัดตั้งองค์การมหาชนแต่ละแห่งว่าได้กำหนดลักษณะต้องห้ามของกรรมการขององค์การนั้นไว้ว่าอย่างไร ถ้ากำหนดเป็นข้อห้ามว่าต้องไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คำพิพากษานั้นก็ย่อมกระทบถึง และมีผลให้ ผช.รมต.ต้องพ้นจากตำแหน่งกรรมการนั้น
2. การจ่ายเบี้ยประชุมหรือค่าตอบแทนนั้นเป็นการจ่ายให้ตามงานที่เขาได้ทำไป เมื่อปรากฏในภายหลังว่าเขาขาดคุณสมบัติ ก็มีผลให้พ้นจากตำแหน่ง แต่ไม่กระทบถึงเงินที่จ่ายตอบแทนไปแล้ว และงานที่เขาได้ทำไป
3. ตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกานั้น หน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งคณะรัฐมนตรี หากยังสงสัยในปัญหาที่ถามไป ก็มีสิทธิขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาทบทวนได้ ซึ่งในกรณีที่มีการทบทวน สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกามากกว่าหนึ่งคณะขึ้นไปหรือถ้าเป็นปัญหาสำคัญก็อาจขอให้ที่ประชุมใหญ่เป็นผู้ร่วมกันพิจารณาให้
คณะกรรมการกฤษฎีกามีฐานะเป็นที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลและกระทรวงทบวงกรม รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและรัฐวิสาหกิจ โดยฐานะเช่นนั้น คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงพิจารณาทุกเรื่องโดยอิสระและตรงไปตรงมา โดยไม่คำนึงว่าผู้ถามปัญหาเป็นใครและมีความประสงค์จะได้ผลอย่างไร เพราะการให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้นจึงจะช่วยให้ผู้ถามปัญหาสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ถ้าเรื่องใดมีความเห็นว่าทำได้ ผู้ถามก็จะได้ดำเนินการไปโดยปลอดโปร่งใจ หากเรื่องใดเห็นว่าทำไม่ได้ เขาก็จะได้ไปหาวิธีการหรือหาทางแก้ไขได้ถูกต้อง ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาแม้จะไม่ใช่เป็นที่สุด แต่ก็เป็นความเห็นเบื้องต้นที่ใช้อ้างอิงได้ อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นที่ปรึกษากฎหมาย คำตอบนั้นจึงไม่มีผลบังคับให้ผู้ถามต้องปฏิบัติตาม ผู้ถามมีสิทธิจะปฏิบัติตามหรือไม่ก็ได้ เพียงแต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามความเห็นนั้น หากเกิดความผิดพลาดหรือเสียหายขึ้น ผู้ถามก็ต้องรับผิดชอบเป็นส่วนตัว และที่สำคัญหากมีประเด็นเกี่ยวกับความสุจริต ก็ยากที่จะอ้างว่าตนได้ทำไปโดยสุจริตได้
4. แหม! ผมเป็นกรรมการอยู่ในคณะที่ 1 เสียด้วย เลยไม่รู้จะให้ความเห็นอย่างไร
มีชัย ฤชุพันธุ์ 20 เมษายน 2549 |