ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    016340 นายกรัฐมนตรีมีชัย ฤชุพันธุ์11 มีนาคม 2549

    คำถาม
    นายกรัฐมนตรี

    เรียน ท่านผู้อ่าน

           เมื่อวันก่อนมีท่านผู้อ่านใช้ชื่อว่า "ระชา" ได้ส่งคำถามในหัวข้อ "นายก" ในคำถามที่ 016329  ซึ่งผมได้ตอบแล้ว แต่เนื่องจากมีเหตุขัดข้องทางเทคนิค ทำให้คำตอบส่วนใหญ่หายไป  เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ทราบคำตอบที่สมบูรณ์ จึงขอนำคำถามและคำตอบฉบับเต็มมาลงไว้ต่อท้ายนี้

    --------------------------------------------------------------------------------------

    กาบเรียนท่านอาจารย์

      กระผมมีความเห็นอย่างจริงใจว่าท่านนายกทักษิณ  เป็นคนเก่ง  คนฉลาด และเป็นนักธุรกิจที่เหนือชั้น  เมื่อมาเป็นนายกก็มีบารมี  มีทุกอย่างพร้อมที่จะให้กลไกต่างๆทำงานได้  ซึ่งจะหาไม่ได้กับบุคคลที่พร้อมเช่นนี้  เราอาจจะมีคนเก่งมากๆในประเทศไทย  แต่ถ้ามาเป็นนายกฯก็ไม่สามารถควบคุมกลไก(สส.หรือรมต)ได้

      หลายปีมาแล้ว  หลายฝ่ายชื่นชมว่าท่านนายกฯจะเป็นลีกวนยู2  จะสามารถผลักดันประเทศให้ก้าวหน้าได้

      แต่เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น  ทำให้สร้างปัญหากับตำแหน่งนายกฯถึงขั้นวิกฤต  และมีการเรียกร้องให้ท่านลาออก  และคนที่เรียกร้องให้ลาออกก็ไม่สามารถจะเสนอบุคคลที่จะมาเป็นนายกได้  เช่นราชนิกูลและอธิการบดีม.ธรรมศาสตร์ กลับนำภาระไปให้ในหลวงทรงหานายกฯ

       จึงใคร่กราบเรียนถามอาจารย์ว่า  การเป็นนักธุรกิจที่ก่งกาจสามารถ  กับการเป็นนายกฯที่เก่งกาจสามารถ  จะมีวิธีการดำเนินการปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบใกล้เคียงกันได้หรือไม่

     กราบขอบพระคุณ

    ระชา

    คำตอบ

    เรียน คุณระชา

           ความเก่งของคนในแวดวงและในแต่ละสาขาวิชาชีพหรือวิถีชีวิตนั้นย่อมมีสภาพที่แตกต่างกันและมีกรอบที่แตกต่างกัน ความเก่งของพระที่เป็นพระนักพัฒนาย่อมอยู่ที่ทำให้คนศรัทธาเลื่อมใสและโน้มน้าวจิตใจให้ร่วมกันบริจาคทรัพย์สินเงินทองหรือแรงงานมาร่วมกันพัฒนาศาสนวัตถุให้เจริญรุ่งเรือง  ในขณะเดียวกันความเก่งที่จะได้รับการนิยมยกย่องของพระที่เป็นนักวิปัสนาหรือนักปฏิบัติ ย่อมอยู่ที่การสละ ละในสิ่งทั้งปวง ไม่แสวงหาวัตถุใด ๆ ให้เป็นเครื่องถ่วงจิตใจ มุ่งแต่พัฒนาจิตใจให้ใสบริสุทธิ์ มุ่งแต่ปฏิบัติเพื่อการบรรลุ คนจึงนิยมยกย่องว่าท่านเก่ง

           นักธุรกิจหรือนักบริหารภาคเอกชนนั้นถ้าสามารถนำพาธุรกิจของตนไปสู่ความสำเร็จมีกำไรมหาศาล ขยายเครือข่ายและกิจการออกไปมากเท่าไรก็ยิ่งถือว่าประสบความสำเร็จมากเท่านั้น ยิ่งครอบตลาดหรือมีส่วนแบ่งในการตลาดยิ่งมากก็ยิ่งดี ถ้าทำให้ต้นทุนต่ำด้วยการเสียภาษีให้น้อยที่สุดยิ่งเป็นที่ขึ้นชื่อ ทำให้คู่ต่อสู้หมดทางแข่งขันหรือหมดทางที่จะตามตันก็ถือว่ามีวิสัยทัศน์กว้างไกล เป็นคนเก่งที่จะต้องยกกันเป็นเลิศ  แต่แม้กระนั้นในระยะหลัง ๆ ในวงการธุรกิจก็เริ่มเรียกหาความโปร่งใส หรือธรรมาภิบาล แต่ความโปร่งใสหรือธรรมาภิบาลนั้นก็ยังหนักไปในทางคุ้มครองผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทเสียมากกว่าคุ้มครองประชาชนทั่วไป  รวมความว่า ความเก่งของนักธุรกิจหรือนักบริหารภาคเอกชน จึงมุ่งเน้นอยู่ที่การทำประโยชน์ให้แก่เจ้าของหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงอันจำกัด ส่วนใครจะเสียหายอย่างไร หรือเอารัดเอาเปรียบใคร เป็นเรื่องรองลงไป หรือเกือบจะไม่ได้นึกถึง

            สำหรับคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะเป็นรัฐบาลนั้น มีหน้าที่กว้างไกลกว่านักธุรกิจและนักบริหาร มีอำนาจของรัฐอยู่ในมือ อำนาจเช่นว่านั้นมีตั้งแต่การสร้างกฎกติกาเพื่อยังความสงบเรียบร้อย ความเป็นระเบียบของสังคม ความไม่เอารัดเอาเปรียบ การคุ้มครองผู้ด้อยโอกาสหรือผู้ที่มีปัจจัยในการต่อสู้น้อยกว่า  กฎกติกาใดที่มีช่องโหว่หรือรอยรั่ว เจ้าหน้าที่ของรัฐก็มีหน้าที่ต้องคอยอุดรูรั่วเหล่านั้นเพื่อไม่ให้ใครอาศัยช่องโหว่เหล่านั้นไปเอาเปรียบคนอื่น ในขณะเดียวกันก็มีหน้าที่ต้องบังคับการให้เป็นไปตามกฎกติกา นำคนที่ทำผิดกฎกติกามาสู่กระบวนการเพื่อลงโทษ หน้าที่ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการพัฒนาประเทศให้รุ่งเรืองทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เมื่อประเทศเจริญขึ้น ผู้คนมีรายได้ดี ก็มีหน้าที่ในการไปจัดเก็บภาษีอากรเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารกิจการบ้านเมืองและให้บริการแก่ประชาชน

           ด้วยอำนาจและหน้าที่ดังกล่าวมา ความเก่งของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงมิใช่อยู่แต่เพียงที่ทำกำไร แต่ต้องทำเพื่อวัตถุประสงค์หลายอย่างพร้อม ๆ กัน โดยมิได้มุ่งหากำไร  และโดยหน้าที่และการมีอำนาจดังกล่าว การบางอย่างที่คนทั่วไปทำได้ คนที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงทำไม่ได้ และบางอย่างก็ไม่พึงทำ และบางอย่างไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง

          คนที่ทำมาหากินทั่ว ๆ ไป อาจพยายามหาช่องทางในการหลีกหลบภาษีอากร ให้เสียน้อยที่สุด ใครทำได้ ก็เป็นความเก่ง เป็นความสำเร็จ  แต่ถ้าลูกและเมียของเจ้าหน้าที่สรรพากร นั้นตั้งบริษัทเพื่อให้บริการแนะนำคน เพื่อคอยบอกว่าทำอย่างไรจึงจะเสียภาษีน้อยที่สุด จนบริษัทนั้นมีรายได้ร่ำรวยมหาศาล เราจะยอมรับว่าเจ้าหน้าที่สรรพากรนั้นเป็นเก่งที่สมควรอยู่เป็นตัวอย่างในกรมสรรพากรต่อไป หรือสมควรจะแนะนำว่าควรออกไปอยู่นอกแวดวงของกรมสรรพากร  และถ้าเจ้าหน้าที่นั้นไปตรวจสอบบริษัทใดที่มิได้เสียภาษีอากรให้ถูกต้อง และบริษัทนั้นบังเอิญไม่ได้ใช้บริการการปรึกษาจากบริษัทของเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรนั้น เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เจ้าหน้าที่สรรพากรนั้นทำไปโดยสุจริต หรือทำไปเพราะบริษัทนั้นมิได้มาใช้บริการของบริษัทของเมียและลูกของเจ้าหน้าที่สรรพากรผู้นั้น

           สมมุตินะครับ (อย่าคิดว่าเป็นเรื่องจริง) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและปลัดกระทรวงคมนาคมของประเทศหนึ่งมีอำนาจในการอนุญาตให้คนเปิดบริษัทการบินได้ ถ้าวันหนึ่งภรรยาและบุตรและบริวารของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดบริษัทการบิน และมาขออนุญาต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและปลัดกระทรวงคมนาคมก็อนุญาต ในขณะเดียวกัน เส้นทางใดที่บริษัทการบินแห่งชาติของประเทศนั้นเคยมีอยู่ก็งดเสีย เพื่อให้บริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ได้ใช้เดินทาง บริษัทนั้นก็รุ่งเรืองขึ้นมา ถ้ามองในแง่ของนักธุรกิจ ก็ต้องรับว่ารัฐมนตรีและปลัดกระทรวงคมนาคมนั้นเก่ง เพราะไม่เคยมีใครคิดทำมาก่อนได้ (ซึ่งอาจเป็นได้ว่าไม่เคยมีใครฉลาดพอที่จะคิดออก หรือไม่เคยมีใครกล้าพอที่จะคิด) แต่ถ้ามองในแง่ประโยชน์ของรัฐ และความเป็นธรรม และประโยชน์ของบริษัทการบินของชาตินั้น เราจะยอมรับได้หรือไม่ว่ารัฐมนตรีและปลัดนั้นเป็นคนเก่งสมควรแก่การยกย่อง ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถ้าถามว่าได้ทำถูกต้องตามกฎเกณฑ์หรือไม่ ก็คงต้องยอมรับว่าถูกต้อง  แต่จะมีอะไรอีกมากมายเลยที่สามารถเดินไต่เส้นลวดให้ถูกต้อง แล้วเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและส่วนรวมได้

           คนธรรมดาเมื่อไปครอบครองที่ดินของคนอื่นโดยสงบ โดยเปิดเผย โดยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี กฎหมายยอมรับว่าเป็นการครอบครองปรปักษ์ เมื่อไปร้องขอต่อศาล ๆ ก็ต้องสั่งเจ้าพนักงานให้โอนที่ดินนั้นให้แก่ผู้ครอบครองปรปักษ์ได้  แต่ถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดอาศัยไต่เส้นลวดเดียวกันนี้ ไปครอบครองปรปักษ์ที่ดินของชาวบ้านในจังหวัดของตน เราจะยอมรับความเก่งของผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นหรือไม่ ถ้าชาวบ้านเขาร่วมใจกันเดินขบวนประท้วงเพื่อขับไล่ผู้ว่าราชการจังหวัดคนนั้นให้ออกไปจากพื้นที่ ผู้ว่าจะต่อสู้ว่าเป็นการเอากฎหมู่มาอยู่เหนือกฎหมายได้หรือไม่

           ที่พูดมาทั้งหมด ไม่ได้ว่าใคร เพียงแต่ยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นว่าความเก่งของคนในแต่ละสถานะนั้นแตกต่างกัน

           ในท่ามกลางฝุ่นตลบนี้ มีเสียงพูดที่น่าตระหนกว่า ใครมาก็โกงเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าโกงแล้วทำงานก็น่าจะดีกว่า ฟังแล้วก็ขนลุก  ถ้าทัศนะนี้เป็นที่ยอมรับกันเป็นเสียงข้างมาก ก็น่าจะต้องเขียนไว้เสียในรัฐธรรมนูญให้ชัดแจ้งไปเลยว่า ใครมาเป็นรัฐบาลก็ให้มีสิทธิหักเปอร์เซ็นต์ได้ตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด เอาให้ทั้งโลกงงกันไปเลย  ไหน ๆ เราก็ทำท่าว่าจะได้ไปนั่งตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติกันแล้ว จะได้ฝากฝังให้ท่านไปช่วยแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติเสียให้สอดคล้องกับแนวคิดแบบใหม่ของไทยเราเสียด้วย

            อ้อ ลีกวนยูนั้นท่านเป็นคนเก่งจริง และคนสิงคโปร์เองออกจะบ่น ๆ อยู่ด้วยซ้ำไปว่าท่านออกจะเผด็จการ  แต่เนื่องจากท่านไม่ได้ทำธุรกิจให้ปวดหัว ท่านจึงอยู่ในตำแหน่งได้จนท่านเบื่อไปเอง และแม้เมื่อท่านออกไปแล้วบารมีของท่านก็ยังคุ้มครองคนของท่านให้อยู่ในตำแหน่งได้อีกยาวนาน รอจนลูกของท่านเติบโตพอมารับตำแหน่งต่อไปได้อยู่จนทุกวันนี้  เข้าทำนองภาษิตของไทยที่ว่า ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่เหลือ  แต่ดูเหมือนคนสมัยใหม่เขาจะค่อยเห็นด้วยกับภาษิตนี้ เขามักจะค่อนว่าคนที่คิดอย่างนี้เป็นคนโง่และไม่ทันกับยุคโลกาภิวัฒน์


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    11 มีนาคม 2549