เรียน ท่านอาจารย์มีชัยทีเคารพ
ขออนุญาตอาจารย์แสดงความคิดเห็น ดังนี้(ผมไม่ได้เรียนกฏหมายนะครับ)
๑. กรณีของผู้ว่า สตง. เมื่อศาลวินิจฉัยว่ากระบวนการสรรหาไม่ถูกต้องตั้งแต่ต้น แสดงว่าการแต่งตั้งท่านผู้ว่า ฯ คนเดิม โมฆะ ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ ก็แสดงว่ายังไม่ได้เป็นผู้ว่า ฯ เมื่อเป็นเช่นนี้จะต้องลาออกทำไม หรือ ต้องมีกระบวนการอะไรอีกที่จะต้องให้ผู้ว่าคนเก่าพ้นตำแหน่ง เพราเมื่อไม่ได้รับตำแหน่ง จะต้องรอให้พ้นตำแหน่งอย่างไร ผมเข้าใจผิดหรือเปล่าครับ
๒. ผมไม่เข้าใจว่าการที่กฏหมายที่เขียนว่า"ลงโทษจำคุก" และ"ลงโทษถึงที่สุดให้จำคุก" น่าจะมีความหมายหรือสื่อความหมายแตกต่างกัน แต่เท่าที่ผมฟังคำพิพากษาของศาล(บางคดี) จะให้ความหมายเหมือนกัน เจตนารมย์ของกฏหมายน่าจะปรากฏชัดแจ้งในการประชุมยกร่างกฏหมายและการประชุมสภาผู้แทนราษฏรพิจารณากฏหมายดังกล่าว ทำไมเวลาวินิจฉัยจึงไม่มีการอ้างอิงบ้างเลย ขณะนี้ประชาชนอย่างผมค่อนข้างหงุดหงิดเกี่ยวกับวิกฤติการทางกฏหมายในประเทศไทย และเหบื่อหน่าย ความดื้อรั้นของผู้หลักผู้ใหญ่จังเลยครับ จะมีกลไกได ๆ หรือไม่ที่จะป้องกันมิให้เกิดวิกฤติการทางด้านกฏหมาย ซ้ำ ๆ ซาก ครับ
ขอบพระคุณครับ/นิติธรรม
เรียน นิติธรรม
1. ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากระบวนการสรรหาและการให้ความเห็นชอบไม่ถูกต้อง และถือว่าไม่ได้ดำรงตำแหน่งมาแต่ต้น ที่เป็นปัญหาก็เพราะศาลรัฐธรรมนูญไม่พูดให้ชัดเจนว่าการแต่งตั้งนั้นมีผลอย่างไร จึงทำให้เกิดข้อกังขากันอยู่ร่ำไป เมื่อมีใครไปถามศาลรัฐธรรมนูญ ๆ ก็ตอบว่าที่ไม่ได้พูดไว้ให้ชัดเจนก็เพราะไม่ได้ถามมา เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะมีเจตนาอย่างไรก็ไม่รู้ แต่เดาเอาว่า (ซึ่งอาจถูกหรือผิดก็ได้) ศาลรัฐธรรมนูญคงหลีกเลี่ยงไม่อยากวินิจฉัยอะไรให้กระทบถึงพระบรมราชโองการที่โปรดเกล้าฯแต่งตั้งคุณหญิงจารุวรรณ เพราะเห็นว่าเมื่อวินิจฉัยเพียงเท่านี้แล้ว องค์กรที่เกี่ยวข้องก็ย่อมต้องไปสรรหาและให้ความเห็นชอบกันใหม่ ซึ่งผลก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เรื่องจึงทำให้เกิดกังขาและคาราคาซังอยู่
3. ความที่มีปัญหากันอยู่คือความที่ว่า "ต้องคำพิพากษาให้จำคุก" กับ ความที่ว่า "ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษา" หรือ "ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก" ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญท่านวินิจฉัยว่ามีความหมายเหมือนกัน ซึ่งนักกฎหมายอีกส่วนหนึ่งเห็นว่า ความดังกล่าวมีความชัดเจนอยู่ในตัวว่าแตกต่างกัน และกฎหมายประสงค์จะให้แตกต่างกัน แต่เมื่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันองค์กรทุกองค์กร จึงจำเป็นต้องถือปฏิบัติกันตามนั้น ทางออกของคนออกกฎหมายต่อไปในวันข้างหน้าก็คือ ต้องเขียนเสียให้ชัด เช่น "ต้องคำพิพากษาให้จำคุก ไม่ว่าจะได้รับโทษจำคุกหรือไม่ก็ตาม" หรือถ้าเขียนอย่างนี้แล้วศาลยังตีความว่าเหมือนกันอีก ก็คงต้องเขียนให้ชัดยิ่งขึ้น ทำนองว่า " ต้องคำพิพากษาให้จำคุกไม่ว่าจะได้รับโทษจำคุกจริงหรือศาลสั่งให้รอลงอาญาก็ตาม สาบานก็ได้ว่าต้องการอย่างนั้นจริง ๆ ให้ตายเถอะ" ทีนี้ถ้าท่านยังแปลว่าเหมือนกันอีก ทุกคนก็ต้องต้องร้องพร้อม ๆ กันว่า "ปลงเสียเถิดแม่จำเนียร"