เมื่อเจอหัวหมอรู้กฎหมายใช้กระบวนพิจารณาที่ล่าช้าของระบบเอาเปรียบชาวบ้าน(ตอนที่2)
ก่อนอื่นขอกราบขอบพระคุณอาจารย์อย่างมากค่ะที่สละเวลาตอบคำถามให้ในคำถามที่051486 ทั้งที่อาจารย์งานมากอยู่แล้ว อ่านคำตอบแล้ว ก็ทำใจค่ะ
ดิฉันลองทำหนังสือแจ้งร้องเรียนไปที่ คปภ.(สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย)
ทางบริษัทประกันอ้างว่าในกรมธรรม์ต้องให้คนขับรถบรรทุกที่เขารับประกันยอมรับผิดเสียก่อน เขาจึงจ่ายค่าสินไหมให้คู่กรณีได้ แต่ถ้าคนขับไม่ยอมรับผิด ต้องรอให้ศาลมีคำพิพากษา(ถึงที่สุด)ก่อน เขาจึงจะดำเนินการจ่ายสินไหมทดแทนให้
ดิฉันจึงพูดทั้งที่มีภาพพยานหลักฐานชัดเจนว่าคนขับรถบรรทุกที่บริษัทรับประกันนั้นผิดนะ ทางเจ้าหน้าบอกว่ามันเป็นข้อเท็จจริงน่ะ ค่ะ
ได้ยินเขาพูด ตัวเองมานึกปลงทำใจค่ะ คดีนี้ทางฝ่ายนายจ้างสั่งกำชับไม่ให้คนขับรถบรรทุกยอมรับผิด แถมตอนแรกมีให้คนขับรถบรรทุกยื่นร้องขอความเป็นธรรมจากอัยการอีก คงตั้งใจถ่วงเวลา(เพราะมีคู่กรณีหลายราย) แต่ด้วยมีภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจน ทางอัยการจึงไม่รับเรื่อง สั่งฟ้องคนขับ
ตอนนี้ได้แต่ปลงค่ะ อันที่จริงถ้าบริษัทประกัน เขาจะจ่ายก็ได้ไม่มีกฎหมายห้าม แต่ช่องโหว่ของกระบวนการขั้นตอนต่างๆ เขาย่อมปฏิเสธยังไม่จ่ายก็ได้ ที่ผ่านมาศาลก็พิพากษาให้ค่าชดเชยน้อยด้วย
หรือไม่อย่างนั้นทางเลือกของผู้เสียหายต้องยอมรับจำนวนเงินชดเชยในจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับความเสียหายจริงๆ คือยอมขาดทุนไป ให้บริษัทประกันและคู่กรณีเอารัดเอาเปรียบ
ตอนนี้ดิฉันได้แต่บอกให้ทางผู้เสียหายทำใจ ว่าอย่ามาหวังมากก็ปลอบใจพวกเขาไปน่ะค่ะ. เพื่อบรรเทาความเครียด ดิฉันมองในแง่ร้ายเผื่ออีกฝ่ายจะใช้วิธีถ่วงเวลาลากไปจนถึงศาลสูงต่อ
ตัวบทกฎหมายดีและยุติธรรมนะคะ บุคลากรส่วนมากก็ดี ไม่มีใครตั้งใจให้กรณีแบบนี้เกิดขึ้นหรอก
แต่เราไปใจดีไม่เด็ดขาดกับคนไม่สุจริตเกินไปหรือเปล่า จึงกลายเป็นว่าเหมือนไม่รู้ ไม่ทันกลโกง
กราบขอบพระคุณอาจารย์อีกครั้งค่ะ |