ซื้อแฟนร์นไช เครื่องดื่มชาเย็นยี่ห้อหนึ่งมา ๑ แสน(ค่าแฟร์นไชด์) ลงทุนเปิดร้านอีก ๑ แสน รวม ๒ แสน แต่ไม่มีสัญญาอะไรกัน หลักฐานที่มีก็แค่ใบโอนเงินและใบเสร็จรับเงินค่าซื้อผงชาและแก้วจากเจ้าของแฟนด์ไชด์ นอกนั้นก็มีพยานบุคคลคือ สาขาอื่นๆที่ซื้อไปด้วยกัน ต่างก็ไม่ได้ทำสัญญาเหมือนกัน โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข(ด้วยวาจา)เป็นที่รับรู้กันทุกสาขาว่าจะต้องมีระยะห่างกันแต่ละสาขาไม่น้อยกว่า ๒ กม.
๗ เดือนผ่านมาพอจะคืนทุน เจ้าของแฟนร์ชายขายแฟร์นไชด์เพิ่มสาขา และมาเปิดตั้งอยู่ใกล้ๆแค่ ๕๐๐ - ๗๐๐ ม.ก็มี แย่งลูกค้ากัน ส่งผลให้ขายไม่ได้เลยไม่คุ้มทุน ถามว่า
๑.จะฟ้องเรียกค่าเสียหายอะได้บ้าง ถือว่าเป็นการฉ้อโกงได้ไหม
๒. ฟ้องให้เขาชดใช้ค่าเสียหายจากรายได้ที่หดหายไปได้ไหม
๓. หรือเขายกเลิกการขายแฟนร์ไชด์รายใหม่ได้ไหม เพราะผิดข้อตกลง(ด้วยวาจาแต่มีพยานบุคคล) ระยะห่างน้อยกว่าที่ตกลงกัน
คงตอบได้ยาก เพราะไม่รู้รายละเอียดของข้อตกลงกันว่ามีลักษณะเป็นการตั้งตัวแทน หรือสัญญาอย่างอื่น เลยไม่รู้ว่าจำเป็นต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือต้องทำสัญญาเป็นหนังสือหรือไม่ เพราะสัญญานั้นปกติแม้ไม่มีหนังสือก็เป็นสัญญาได้ เว้นแต่สัญญาบางประเภทที่กฎหมายกำหนดให้ต้องทำเป็นหนังสือ หรือมีหลักฐานเป็นหนังสือจึงจะฟ้องร้องบังคับกันได้ ดังนั้นทางที่ดีจึงควรปรึกษากับทนายความเพื่อเขาจะได้ซักถามรายละเอียดได้