นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงาน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กล่าวถึงกรณีประธานวิปรัฐบาลระบุว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะชะลอการยื่นญัตติการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยนี้ว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าที่ประธานวิปรัฐบาลให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ อาจเป็นลับลวงพรางของฝ่ายรัฐบาล เพราะตนเชื่อว่าหนทางช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ให้พ้นผิด มีทางเดียวคือ เสนอขอแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ การลดกระแสการต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญที่มีเวลานี้ คิดว่าพรรคพลังประชาชนคงจะต้องมีวิธีเสนอขอแก้รัฐธรรมมูญบางมาตรา อาจเป็นได้ว่าจะมีการยื่นขอแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ที่เกี่ยวกับการทำสนธิสัญญา หรือทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ จะต้องนำเข้าการพิจารณาและลงมติของรัฐสภาก่อน ซึ่ง พธม. จะไม่ยอมไว้วางใจและคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญอย่างเด็ดขาดจนถึงที่สุด จะติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง จนกว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะประกาศเป็นทางการว่าจะระงับการเสนอการแก้รัฐธรรมนูญ

นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า หลังจากเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ แล้ว จะมีความรุนแรงเกิดขึ้นว่า จากการประเมิน เป็นไปได้สูงมาก หากเกิดจริงอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบ เงื่อนไขที่จะนำไปสู่สงครามกลางเมืองที่ประเมิน คือ

1.พ.ต.ท.ทักษิณ มีท่าทีไม่ยอมเสียลสะ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ยอมสารภาพรับความผิดที่ตนทำ ซึ่งประเทศจะสงบสุขได้ก็อยู่ในมือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะเลือกตัดสินใจ เวลานี้ท่าที พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีทีท่าจะยอมเสียสละในเรื่องนี้

2.สถานการณ์การโจมตีสถาบันเบื้องสูง และสถาบันตุลาการ เวลานี้รุนแรงขึ้นเป็นลำดับ จะสังเกตได้จากหลังจากศาลอาญาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินคดีที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษกแล้ว การโจมตีสถาบันเบื้องสูงเริ่มรุนแรงขึ้น

3.พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าวิธีเดียวที่จะกลับมายิ่งใหญ่ได้เหมือนอดีต คือ ใช้ความรุนแรงและใช้กำลัง ดังนั้น ประเทศจะสุขสงบหรือไม่ อยู่ในมือ พ.ต.ท.ทักษิณ ครึ่งหนึ่ง