การฟ้องคดี
กราบเรียนท่านอาจารย์ที่เคารพอย่างสูง
กระผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการฟ้องร้องดำเนินคดีฯอยากกราบเรียนถามท่านอาจารย์รายละเอียดมีดังนี้ครับ
คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแห่งหนึ่งไปดำเนินการธุรกิจซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลต่อมารู้ว่าถูกฉ้อโกงจึงได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทคู่สัญญา ในคดีอาญา ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 83,341,343และตามกกหมายพระราชกำหนดฉ้อโกงประชาชน พ.ส.2527เรื่องนี้มีความเสียหายเกิน 100 ล้านบาทจึงมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ( DSI)เข้าสอบสวนและร่วมดำเนินการด้วย เรื่องคดีความยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ต่อมาคณะกรรมการดำเนินการอยากจะฟ้องร้องดำเนินคดีทางแพ่งด้วยทำให้เกิดข้อคิดเห็นที่แตกต่างกันจึงขอเรียนถามท่านอาจารย์ดังนี้ครับ
1.ควรดำเนินคดีทางอาญาให้สิ้นสุดลงก่อนแล้วค่อยดำเนินฟ้องร้องคดีทางแพ่งต่อหรือว่าดำเนินคดีฟ้องร้องทั้งทางอาญาและทางแพ่งไปพร้อมๆกัน
2.ในหลักกฏหมายการฟ้องร้องทางอาญาและทางแพ่งผู้พิพากษาเป็นคนละองค์คณะฯจะมีวิธีการดำเนินคดีอย่างไร?
3.ในด้านกฏหมายเป็นไปได้หรือไม่คำพิพากษาของศาลเป็นไปคนละทิศคนละทาง(อาญาไปทางคดีแพ่งไปทาง)เพราะขนาดเรื่องเดียวกัน ศาลชั้นต้นไปทาง ศาลอุทธรณ์ไปทาง ศาลฏีกากลับไปเหมือนชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ก้เคยปรากฏให้เห็นบ่อยๆ
4.ความสัมพันธ์ระหว่างการดำเนินคดีทางอาญากับการดำเนินคดีทางแพ่งในหลักกฏหมายตามที่กระผมกราบเรียนถามท่านอาจารย์มานี้เขามีกระบวนการพิจารณาคดีอย่างไร?และส่งผลถึงกันและกันอย่างไร?
5.กฏหมายมาตรา 157.(การทุจริต,การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ)สามารถนำมาใช้กับองค์กร(สหกรณ์ออมทรัพย์ครู)ได้หรือไม่?เนื่องจากไม่ได้เป็นหน่วยงานราชการแต่เป็นตัวแทนข้าราชการครูมาปฏิบัติหน้าที่และบริหารเงินของข้าราชการครูโดยเป็นคณะกรรมการดำเนินการกิจการสหกรณ์
ด้วยความเคารพอย่างสูง
อ.สุรศักดิ์ นาคนาคา |