กราบเรียนท่านอาจารย์มีชัย

เนื่องจากเพื่อนข้าพเจ้าไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารได้ ข้าพเจ้าได้ทำการกู้ยืมจากธนาคารแทน และธนาคารอนุมัติและข้าพเจ้าได้รับเงินครบถ้วนแล้ว ข้าพเจ้าจึงนำเงินจำนวนดังกล่าว ไปให้เพื่อนคนนั้นยืมต่อไป โดยระหว่างข้าพเจ้ากับเพื่อนมิได้มีการทำสัญญากู้ยืมกันแต่อย่างใด ข้าพเจ้าจึงมีประเด็นสอบถามดังนี้ค่ะ

1.ข้าพเจ้าสามารถทำสัญญากู้ยืมเงินย้อนหลัง โดยระบุวันที่ +จำนวนเงิน และอัตราดอกเบี้ย ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำสัญญากู้ยืมเงินกับธนาคารได้หรือไม่

2.สัญญากู้ยืมเงินระหว่างข้าพเจ้าและธนาคาร กับ สัญญากู้ยืมเงินระหว่างข้าพเจ้าและเพื่อนคนนั้น เป็นสัญญาคนละกรณีกัน ไม่สามารถโยงถึงกันใช่หรือไม่

3.เพื่อนคนนั้น มีการผ่อนชำระกับข้าพเจ้ามาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ครบจำนวน ดังนั้น ข้าพเจ้าจะทำสัญญากู้ยืมเงินจำนวนดังกล่าวย้อนหลังไป สัญญากู้ยืมเงินฉบับนี้ สามารถบังคับได้ตามกฎหมายหรือไม่ หรือฟ้องร้องต่อศาลได้หรือไม่ และ ต้องมีการอ้างอิงสัญญากู้ยืมเงินระหว่างข้าพเจ้ากับธนาคารหรือไม่

4.หากเกิดกรณีดังกล่าวข้างต้น ข้าพเจ้าควรดำเนินการอย่างไร

5.การขอให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้กู้ มีเพียงศาลเท่านั้นที่จะมีอำนาจบังคับใช่หรือไม่ / ข้าพเจ้าสามารถให้ทางบริษัทผู้กู้นำเงินเดือนนั้น มาใช้หนี้ข้าพเจ้าได้หรือไม่

สุดท้ายนี้ กราบขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงค่ะ

1. ทำน่ะทำได้ แต่ทางที่ดีควรทำหนังสือลงวันที่ที่ทำสัญญากันจริง (อย่าไปลงวันที่ย้อนหลัง) โดยในหนังสือสัญญาระบุรายละเอียดให้ชัดว่า เขาให้คุณไปกู้เงินธนาคารในนามของคุณมาให้เขา ซึ่งธนาคารอนุมัติให้คุณกู้ในนามของคุณเมื่อวันที่....และคุณได้รับเงินและมาจ่ายให้เขารับไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่.... ในการนี้คุณจะต้องผ่อนส่งธนาคารทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นจำนวน.... และเขามีหน้าที่จะต้องนำเงินมาส่งมอบให้คุณภายในวันที่....ของเดือนทุกเดือน จนกว่าจะชำระหนี้ธนาคารหมด และถ้างวดไหนเขาไม่นำมาชำระ เขาจะต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ...ให้แก่คุณ (อย่าให้เกินร้อยละ ๑๕) สัญญานั้นต้องลายมือชื่อของเพื่อนคุณซึ่งเป็นผู้กู้ มิฉะนั้นก็ใช้บังคับกับเขาไม่ได้

2. เป็นสัญญาคนละฉบับ มีความรับผิ ดชอบคนละอย่าง คือ คุณเป็นลูกหนี้ธนาคาร ซึ่งเมื่อใดที่คุณไม่ชำระหนี้ให้เขา เขาก็มีกลไกและความเหี้ยมและทนายความพร้อมที่จะดำเนินการกับคุณ ส่วนคุณกับเพื่อนนั้นเป็นสัญญากู้ยืมเงินระหว่างบุคคลต่อบุคคล ซึงคุณจะขาดสิ่งต่าง ๆ ที่ธนาคารมี  เพราะฉะนั้นธนาคารเขามั่นใจว่าเขาจะได้เงินคืนแน่ ๆ หรือมิฉะนั้นก็ทำให้คุณล้มละลายได้  แต่สำหรับคุณนั้น จะได้รับชำระหนี้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความเมตตาและความสำนึกในบุญคุณของเพื่อน ซึ่งหาได้ค่อนข้างยาก (เว้นแต่ในเวลาข้าวใหม่ปลามัน)

3. ถ้าคุณสามารถทำให้เขามาทำสัญญาตามข้อ ๑ ได้ ก็จะเป็นบุญของคุณ และสามารถนำไปใช้ฟ้องร้องได้ถ้าจำเป็น  ตอนที่คุณไปขอให้เขาทำสัญญาให้คุณนี่แหละ คุณจะเริ่มรู้ละว่ายังอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน หรือกลายเป็นข้าวใหม้ปลาบูดไปแลิ้ว

4. จะทำอะไรได้นอกจากสวดมนต์ให้มากไว้ แล้วนั่งทบทวนดูว่าอะไรทำให้เราคิดโง่อย่างนี้ ถึงกับยอมไปกู้เงินมาให้คนอื่น เราต้องมนต์อะไรของเขา แล้วก็พยายามระมัดระวังอย่าให้เกิดอีก ส่วนที่ทำไปแล้วก็ก้มหน้าก้มตาหาเงินไปชำระหนี้ธนาคารต่อไป การฟ้องร้องนั้นแม้จะทำได้ แต่ก็ไม่แน่ว่าจะได้รับชำระเงินคืน หรือถึงได้รับชำระเงินคืนก็คงเป็นเวลาอีกนาน ถึงอย่างไรคุณก็คงต้องนั่งส่งเงินให้ธนาคารเขาไปก่อน

5. ศาลเท่านั้นจึงจะสั่งให้อายัดเงินเดือนของใครต่อใครได้