เรียน    อ.มีชัยที่เคารพ

ขอรบกวนอาจารย์ดังนี้คะ

เดิมที่ดินเป็นของยาย  ต่อมาน้าให้ยายเอาไปจำนอง จนเมื่อปี 36 น้าไถถอนออกมาแล้วให้ยายโอนให้เป็นชื่อน้า แล้วเข้าจำนอนต่อในวันเดียวกัน จนปี 38 น้าขาดส่งหลายงวดธนาคารแจ้งให้ชำระตามกำหนดมิเช่นนั้นจะทำการยึดทรัพย์ แม่ดิฉันเลยตกลงกับน้าจะไถ่ถอนให้แต่ต้องโอนมาเป็นชื่อแม่ (เพื่อไม่ให้น้าเอาไปจำนองอีก) แต่พอดีเอกสารแม่ไม่ครบเลยต้องโอนเป็นชื่อพี่สาวดิฉัน

      ในการโอนได้ให้เฉพาะที่ดินไม่รวมสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งน้าเป็นเจ้าบ้านอยู่และ เพื่อเลี่ยงภาษีจึงโอน เป็นให้เพื่อเสน่หา

       ตลอดเวลาก็อาศัยอยู่กันสองครอบครัวและก็มีปัญหากันมาตลอด ซึ่งช่วงหลังลูกชายน้าชอบต่อเติมบ้านเอง ทำเอง ซึ่งทางครอบครัวดิฉันเห็นว่ามันอันตราย พี่สาวเลยแจ้งทางเทศบาลขอคัดค้านการก่อต่อเติมเพราะเป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งเค้าก็ไม่ได้ขออนุญาติทางเทศบาล

       ทางครอบครัวดิฉันกังวลเรื่องที่มีปัญหากับน้าเลยได้ปรึกษาที่สภาทนายความว่าเราจะทำยังไงได้บ้างเพื่อไม่ให้น้ามีสิทธิ์ขอที่คืน ทางทนายแนะนำให้เราทำเรื่องซื้อขายกับใครก็ได้ เพื่อตัดปัญหา ก่อนหน้านี้พี่สาวได้เอาที่เข้าจำนองกับสหกรณ์ เหลือยอดอยู่ ประมาณ 300000 พี่สาวเลยเอารถเข้า รีไฟแนนท์ และเอาเงินไปไถ่ที่ออกแล้วโอนซื้อขายเป็นชื่อสามีดิฉัน ซึ่งเราไม่รอบครอบคือไม่ได้ทำหลักฐานการซื้อขายให้ชัดเจน

       ต่อมาน้าให้ทนายของเค้าส่งหนังสือมาว่า ทางเราได้ทำการปกปิด อำพรางการซื้อขาย เพื่อเป็นการตัดสิทธิ์ในการขอคืนจึงให้สามีดิฉันโอนคืนให้เค้าภายใน 15 วัน

จึงอยากเรียนถาม อ.มีชัยคะว่าในกรณีน้ามีสิทธิ์ขอคืนได้มั๊ยคะ

และดิฉันยอมรับว่าเราต้องการเปลี่ยนชื่อเพื่อตัดปัญหาการขอคืน

เพราะทุกวันนี้ทางครอบครัวดิฉันดูแลซ่อมแซมบ้านมาตลอดรวมทั้งค่านำ ค่าไฟ  และเคยถามทนายบางท่านก็บอกเราพลาดเพราะไม่ยอมทำหลักฐานการซื้อขายให้ชัดเจน บางท่านก็บอกไม่มีปัญหาเพราะเราทำเรื่องจ่ายภาษีที่กรมที่ดินถูกต้องไม่ได้อำพรางอะไร ก็เลยอยากรบกวนถามอาจารย์ให้หายกังวลอีกครั้งคะ

                                                               ด้วยความเคารพอย่างสูง

การที่ใครยกทรัพย์สินอะไรให้ใครโดยเสน่หานั้น ถ้าได้มีการโอนทางทะเบียนกันเรียบร้อยแล้ว การให้นั้นก็เป็นอันสมบูรณ์ คนยกให้จะเอาคืนไม่ได้ เว้นแต่กรณีผู้รับเนรคุณ ส่วนการที่จะถือว่าเป็นการเนรคุณนั้นได้แก่ (๑) ผู้รับได้ประทุษร้ายต่อผู้ให้เป็นความผิดอาญาอย่างร้ายแรง (๒) ผู้รับได้ทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียงหรือหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง หรือ (๓) ผู้รับได้บอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้และผู้รับยังสามารถจะให้ได้

     ปัญหาของคุณที่ว่าทำหลักฐานการซื้อยขายไม่ชัดเจนนั้น เป็นอย่างไร  หากมีการโอนกันทางทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ก็น่าจะใช้ได้แล้ว