ที่ดินซึ่งทางกองทัพฯ ขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้และได้ให้สิทธิราษฏร์อาสาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและทำกิน โดยมีระเบียบว่าห้ามเปลี่ยนมือยกเว้นสืบทอดทางทายาท ต่อมากรมป่าไม้ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติภายหลัง และในปัจจุบันอายุการขอใช้พื้นที่ของกองทัพฯ ได้สิ้นสุดลงแล้ว มีคำถามรบกวนถามท่านดังนี้ครับ.-
1.ราษฎร์อาสาที่ได้รับสิทธิในที่ดินจากกองทัพทำผิดเงื่อนไข คือขายให้กับบุคคลอื่นไปแล้ว ในขณะที่เวลาการขอใช้พื้นที่ยังไม่หมดอายุ ผู้ที่จะดำเนินการฟ้องบุกรุกที่ดินป่าสงวนฯ จะต้องเป็นกองทัพ หรือกรมป่าไม้ ที่จะต้องดำเนินการ ครับ
2.และในปัจจุบันเวลาการขอใช้พื้นที่ของกองทัพสิ้นสุดลงแล้ว ใคร ? กองทัพ หรือกรมป่าไม้ที่จะต้องดำเนินการฟ้องผู้บุกรุกที่ดินป่าสงวนฯ
3. กองทัพได้ฟ้องร้องผู้ที่ซื้อที่ดินจากราษฏร์อาสา ที่กองทัพได้ให้สิทธิไปแล้วหลายราย ฟ้องศาลในข้อหาบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งข้อเท็จจริงพื้นที่พิพาทนั้นกองทัพได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้แล้ว เพียงแต่ราษกร์อาสาทำผิดระเบียบเงื่อนไขคือห้ามขายให้กับบุคคลอื่น ดังนั้นเป็นการตั้งข้อหาแก่ผู้ซื้อที่ดินในข้อหาดังกล่าวเป็นการตั้งข้อหาผิดหรือไม่ ครับ
4.ความเห็นของเจ้าพนักงานในชั้นสอบสวน (ทั้งตำรวจและอำเภอ) มีความเห็นไม่ส่งฟ้องผู้ที่ซื้อที่ดินต่อจากราษฏร์อาสา เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ แต่อัยการกลับส่งฟ้องศาลไปแล้วหลายราย ซึ่งทนายจำเลยแต่ละรายมีความเห็นไม่ตรงกันในการต่อสู้คดี จึงขอโอกาสและรบกวนท่านชี้แนะตามที่ท่านจะพออนุเคราะห์ได้ จักเป็นพระคุณอย่างสูงครับ...
1. ถ้าจะบอกเลิกการให้อาศัยและทำกิน ก็ต้องเป็นเรื่องของกองทัพ เพราะกองทัพเป็นคนอนุญาตให้เขาเข้ามาอยู่ แต่ถ้าเป็นการฟ้องเรื่องบุกรุกที่ป่าสงวน ก็ต้องเป็นเรื่องของกรมป่าไม้
2. ก็ขึ้นอยู่กับว่ากองทัพยังใช้ที่ดินนั้นอยู่หรือไม่ ถ้ายังใช้อยู่ ก็เป็นไปตามข้อ 1 ถ้ากองทัพส่งมอบพื้นที่คืนให้กรมป่าไม้แล้ว ก็เป็นเรื่องของกรมป่าไม้
3. น่าสงสัยอยู่ว่ากองทัพมีสิทธิฟ้องในข้อหาดังกล่าวได้หรือ