เนื่องจากวันเสาร์ที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้จอดรถยนต์ไว้ริมถนนหน้าบ้าน แล้วได้มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาชนท้าย มาเห็นเหตุการณ์ตอนที่ชนไปแล้ว ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บ มีรถมูลนิธินำส่งรพ. ไม่ทราบว่าเมาหรือเปล่า

รถเรามีประกันชั้น 3 ตัวแทนประกันได้มาทำการถ่ายรูป และลงบันทึกว่าเราเป็นฝ่ายถูก
จากนั้นจึงไปแจ้งความลงบันทึกไว้ ไม่ทราบชื่อผู้ขับขี่ แต่ทาง สน. ได้ยึดรถจักรยานยนต์ไว้
มาทราบภายหลังว่า รถจักรยานยนต์นั้นเป็นรถที่ยืมมา และเจ้าของรถรับทราบแล้วว่ารถเกิดอุบัติเหตุ

รถเรานำเข้าอู่ซ่อมรถ ตีราคาไว้ประมาณ 20,000 กว่าบาท ซื้อของเตรียมพร้อมซ่อมทันที (รู้จักกับที่อู่)
ภายหลังผู้เป็นแม่ของผู้ขับขี่มาติดต่อจึงให้ใบแสดงราคาค่าใช้จ่ายในการซ่อมไป
ทาง สน. นัดเจรจาวันที่ 20 ก.ค. แม่ของผู้ขับขี่ต่อรองราคา เหลือ 12,000 แต่ยังไม่ได้ทำการตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร ทาง สน. จึงนัดอีกครั้งวันต่อไป

พอวันที่ 21 ก.ค. ซึ่งเป็นวันนัด ทางแม่ของผู้ขับขี่ไม่ยอมมา และให้การกับทางตำรวจว่าจะไม่จ่ายเงิน ให้ทางเราไปฟ้องศาลเอาเอง

เนื่องจากทางนั้นอ้างว่าเราจอดรถในเวลาห้ามจอด แต่ทางตำรวจก็บอกทางเราว่าให้ไปเสียค่าปรับทีหลังได้

จึงอยากถามว่า
- จะชดใช้ค่าเสียหายกันอย่างไร ใครผิด ใครถูก
- ประกันชั้น 3 ช่วยอะไรเราได้บ้างในเรื่องคดีความ
- จอดรถในเวลาห้ามจอดแล้วมีรถมาชนมีผลอย่างไร
- เราไม่ทราบชื่อ ที่อยู่ หรือข้อมูลใดๆเกี่ยวกับผู้มาชนเลย จะทำอย่างไร ถ้าจะฟ้อง จะฟ้องเจ้าของรถที่มาชนได้หรือไม่ เพราะไม่ทราบข้อมูลผู้ขับขี่ (และกลัวจะติดตามไม่ได้)
- แล้วถ้าไม่ฟ้อง แต่เราไม่แสดงความยินยอม จะมีผลอย่างไรกับรถจักรยานยนต์ที่ สน. ยึดไว้
- รถของเราที่ถูกชนจะสามารถซ่อม นำไปใช้งานได้เลยหรือไม่
- ถ้ามีการฟ้องร้อง จะฟ้องในรูปแบบใด ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ค่าทนาย สามารถเรียกร้องได้ด้วยหรือไม่
- ถ้าผู้ที่เราฟ้อง อ้างว่าเป็นผู้ไม่มีรายได้ ไม่มีทรัพย์สิน จะมีผลอย่างไร
- ขั้นตอน และ ระยะเวลาในการดำเนินการในการฟ้องร้องเป็นอย่างไร

สุดท้ายนี้ ขอข้อมูลอย่างละเอียด และขอถามทัศนคติผู้ที่มาตอบ ว่าเราควรจะฟ้องร้องหรือไม่ ทำอย่างไรดี เหมือนทางนั้นจะไม่ยอมจ่ายแน่นอน กลัวว่าฟ้องไปจะไม่คุ้ม ข้อมูลฝ่ายนั้นเราก็ไม่รู้ แต่จะให้เสียเงินซ่อมเองเราก็เดือดร้อน ผ่านไปแต่ละวันรถเราก็จำเป็นต้องใช้ เป็นทุกข์ใจอย่างมาก

ขอขอบพระคุณท่านที่เข้ามาตอบและให้ความรู้ไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ต้องขออภัยถ้าถามละเอียดไป เนื่องจากเป็นผู้ไม่มีความรู้ทางกฎหมายเลยจริงๆ

- ใครผิดใครถูก ตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้รายละเอียด  แต่ถ้ารถคุณจอดเฉย ๆ โอกาสที่คุณจะผิดก็น่าจะน้อยมาก ส่วนการชดใช้ค่าเสียหายนั้น ถ้าใครผิดคนนั้นก็ต้องจ่ายค่าเสียหาย

- ประกันชั้น ๓ เป็นการประกันเพื่อชดใช้คนที่เราไปทำให้เขาเสียหาย แต่กรณีของคุณคนอื่นมาทำให้เสียหาย ประกันคงช่วยอะไรไม่ได้

- เมื่อถูกชน ผลก็คือรถเสียหาย (ถามแปลกดี)

- เวลาจะฟ้องใคร ก็ต้องสืบให้ได้ว่าคนนั้นเป็นใคร อยู่ที่ไหน จะไปฟ้องคนอื่นที่เขาไม่ได้ทำผิดด้วยไม่ได้หรอก เว้นแต่เขาเป็นลูกจ้างนายจ้างกัน

- ไม่มีผลอะไร ตำรวจเขาก็ยึดรถไว้ จนกว่าเจ้าของจะมาเอาคืน

- ได้

- ก็ฟ้องเรียกค่าเสียหาย ส่วนค่าขึ้นศาลและค่าทนายนั้นก็ฟ้องเรียกให้ชำระด้วย แต่ค่าทนายความที่ศาลให้ กับที่ต้องจ่ายจริงนั้นไม่เหมือนกัน เช่น เสียค่าทนายความ ๕๐,๐๐๐ บาท ศาลอาจสั่งให้จ่ายคืนให้คุณเพียง ๕,๐๐๐ บาท

- ก็ไม่มีผลอะไร ถ้าเขาผิดเขาก็ต้องชดใช้ ไม่เกี่ยวกับการมีรายได้หรือไม่มี จะร่ำรวยหรือยากจนถ้าทำความเสียหายให้คนอื่นก็ต้องชดใช้เขาทั้งนั้น  ส่วนเมื่อศาลตัดสินให้ชนะแล้วเวลาไปบังคับคดีเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าเขายากจนไม่มีทรัพย์สินอะไร ก็ต้องรอไปจนกว่าเขาจะมีเงินให้ยึด มีเวลาให้รอได้ ๑๐ ปี

- ขั้นตอนการฟ้องขั้นแรก คือ จ้างทนายความ แล้วหลังจากนั้นทนายความเขาดำเนินการเอง