การเช่าที่ดิน
สวัสดีค่ะ อาจารย์หนูขอเรียนถามดังนี้ค่ะ
เมื่อปี พ.ศ.2520 พ่อของหนูได้ทำสัญญาเช่าที่นาต่อ นาย ข ผู้ให้เช่า เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ โดยมีค่าตอบแทนเป็นข้าวสาร 2 เกวียน ต่อปี แต่ถ้าปีไหนทำนาไม่ได้ให้จ่ายเป็นเงิน 5000 บาท ต่อ ปี โดยวัตถุประสงค์ของสัญญาเป็นการเช่าเพื่อทำนาและเพื่ออยู่อาศัย ตาม พรบ เช่านา พศ. 17
ต่อมานาย ข มีปัญหาหนี้สิน จึงนำที่ดินแปลงที่พ่อหนูเช่าดังกล่าวไปจำนองไว้กับ นาย ค และที่ดินแปลงดังกล่าวหลุดจำนอง จึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของนาย ค
นาย ค จึงเป็นผู้ให้เช่าที่ดินต่อนาย ก ในปี 2551 โดยนาย ค ได้บอกแก่พ่อของหนูว่า ถ้าจะเช่าต่อต้องทำสัญญาใหม่ทุกๆ 3 ปี (ซึงตอนนี้ พรบ เช่านา พ.ศ. 17 ได้ยกเลิกไปแล้ว ก็เหลือแต่ พรบ. การเช่าที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม พศ.2524 )
โดย 3 ปีแรก ต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ 4000 บาทซึ่งถือว่าเป็นค่าเช่าที่แพงมาก เนื่องจากเมื่อก่อนเสีย 5000/ปี แต่พ่อของหนูก็ต้องจำใจทำสัญญาเช่าต่อเนื่องจากไม่มีที่ทำกิน และสัญญาฉบับดังกล่าวจะครบ 3 ปี ก็วันที่ 31 กรกฎาคม 2554 ที่จะถึงนี้
และนาย ค ได้มาแจ้งว่าสัญญาฉบับใหม่ที่จะต่อกันนี้จะขอเพิ่มค่าเช่าเป็น 8000 ต่อ เดือน ซึ่งขึ้นค่าเช่าเป็นอีกเท่าตัว โดยนาย ค ให้เหตุผลว่า พ่อของหนู ได้มีการทำการค้าขาย และรับจ้าง ควบคู่ไปกับการทำเกษตรกรรม จึงพอที่จะมีรายได้ และนาย ค ก็สามารถขึ้นค่าเช่าได้ ดังนี้
อยากเรียนถามอาจารย์ว่า
1 การทำการค้าขาย (ขายของชำ ร้านเล็กๆมาก) และ(รับจ้าง กลึงเชื่อมโลหะ แบบชาวบ้านเลี้ยงกุ้งก็ซ่อมพวกใบพัดประมาณนี้ )แต่ทั้งนี้ใช้เนื้อที่ ไม่ถึง 1 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 30 ไร่ และ อีก 29 ไร่ ยังคงทำการเกษตรอยู่โดยไม่มีการทำนาแล้ว ส่วนใหญ่ปลูกผัก เลี้ยงปลา กรณีนี้ที่มีการค้าขายรวมอยู่ในการทำการเกษตรนั้น ถือว่าเป็นการเช่าตาม พรบ.การเช่าทีดินเพื่อการเกษตรกรรม พศ. 2524 หรือไม่คะ
2 จากกรณีดังกล่าวข้างต้น นาย ค สามารถเรียกค่าเช่าเดือนละ 8000 บาทได้หรือไม่
3 และบ้านดังกล่าวที่อาศัยอยู่ตอนนี้ก็สร้างขึ้นเอง มาเป็นเวลา ประมาณ 30กว่า ปีได้ แล้ว นาย ค มีสิทธิจะไล่ที่ได้หรือไม่ (เนื่องจากตอนนี้ นาย ค ได้ติดประกาศขายที่ดินแปลงดังกล่าวแล้ว)
รบกวนอาจารย์ช่วยตอบทีนะคะ ตอนนี้พ่อของหนูร้อนใจมากเนื่องจากไม่มีที่จะอยู่อาศัย และจะถึงวันต่อสัญญา วันที่ 31 กรกฎาคม 2554 นี้ ว่าควรจะต่อรองอย่างไรดี และจะทำอย่างไรดีคะ
ขอบพระคุณอาจารย์อย่างสูงค่ะ
|