รบกวนปรึกษาอาจารย์มีชัยค่ะ
คือแม่ของดิฉันนำโฉนดที่ดินไปจำนองไว้กับนายทุนตอนแรกกู้เงินมาเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท ปี 2542 หลังจากนั้นก็ไปกู้เพิ่ม เป็นจำนวนเงิน 170,000 บาท ดอกเบี้ย 4-5 ปีแรก ร้อยละ 3 บาทต่อเดือน หลังจากนั้นก็ 1.50 บาทต่อเดือน จ่ายแต่ดอกมาหลายปีเนื่องจากแต่ละเดือนเฉพาะดอกเบี้ยเป็นจำนวนเกือบ 5000 บาทแล้ว หลังจากที่ดิฉันเรียนจบ จึงเข้าไปขอรายละเอียดของยอดหนี้ทั้งหมด ซึ่งกลายเป็นว่า ปี 2550 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3 แสน กว่าบาทแล้ว ดอกเบี้ยทบต้นแบบนี้เลย ท้อใจ ไม่ส่ง พอทำงานได้สักพัก มีสวัสดิการพนักงานสามารถกู้เงินซื้อบ้านได้เลยมาคิดว่าถ้าซื้อบ้านมือ 2 ถูกๆ แล้วนำส่วนต่างที่ได้มาจ่ายหนี้ที่บ้านแม่ดีกว่า น่าจะไม่เกิน 3 แสน ถ้าเราลองขอเค้าดู แต่กลับกลายเป็นว่านะวันนี้เจ้าหนี้แจ้งยอดมา 6 แสนกว่าเกือบ 7 แสนแล้วค่ะ อาจารย์ ขอต่อรองเค้าก็ไม่ให้ เค้าให้ดิฉันเข้าไปประนีประนอมหนี้ ขอชำระแค่เดือนละ 4-5 พัน แต่ถ้าทำอย่างนั้นเราก็เหมือนเป็นการยอมรับหนี้ 6 แสนกว่าที่ว่านี้ใช่มั้ยค่ะ เค้าอ้างว่ายังงัยถ้าขายทอดตลาดไปก็ได้ไม่ถึง 2 แสน ซึ่งเงินส่วนที่เหลือหนูก็ต้องรับผิดชอบอยู่ดี
ปัญหาคือ แม่มีสัญญาเงินกู้อะไรเลยเค้าเก็บไว้หมด ขอคัดโฉนดก็ไม่ให้อ้างว่าไปอยู่ที่ส่วนนกลางแล้ว ถ้าจะทำเรื่องต้องทำเป็นสัญญาซื้อ-ขาย รบกวนสอบถามอาจารย์ว่า
1. ดิฉันไม่ได้เซ็น สัญญาอะไรด้วย หนี้พ่อ แม่จะตกมาถึงดิฉันมั้ย ถ้าดิฉันซื้อบ้านเค้ามีสิทธิ์ยึดทรัพย์ได้มั้ยค่ะ
2. เค้าจะอ้างว่าดิฉันไม่ส่งเงินไม่ติดต่อเป็นจำนวน 4 ปีเลยเสียดอกเบี้ยทบต้นมากขนาดนั้นได้หรือเปล่าค่ะ
รบกวนอาจารย์ด้วยค่ะ ไม่รู้จะเริ่มต้น ตรงไหนดี จะไปให้เค้ายึดไปเลยก็กลัวเรื่องไม่จบ สงสารแม่ด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
1. ถ้าคุณซื้อและใส่ชื่อของคุณคนเดียว อย่าใส่ชื่อพ่อแม่ ทรัพย์ที่ซื้อก็เป็นนของคุณ เจ้าหนี้ของพ่อแม่ก็ไม่มีสิทธิมายึดทรัพย์ของคุณได้
2. เขาคิดด อกเบี้ยทบต้นไม่ได้ การที่เขาคิดไปนั้นเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายตามนั้น ข้อสำคัญเวลาทำอะไรกับเขา ให้พ่อแม่เป็นคนทำ คุณอย่าไปท่ำหรื่อลงชื่อในเอกสารเป็นอันขาด เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นหนี้ของคุณขึ้นมา