ความผิด บุกรุก
เรียนถามท่าน มีชัย ครับ
นาย ก เป็นเจ้าหนี้ นาย ข ตามสัญญาเงินกู้ จำนวน 190,000 บาท เมื่อถึงกำหนดชำระ นาย ข ปฏิเสธการชำระหนี้และหลบหายหนีไป นาย ก ได้ไปหานาย ข ที่บ้านซึ่งประกอบกิจการร้านอาหาร เพื่อทวงหนี้ดังกล่าว ญาติของนาย ข แจ้งว่านาย ข ได้หนีไปแล้ว นาย ก กับพวกอีก 1 คนได้งัดประตูบ้านของนาย ข เพื่อเข้าไปค้นหาทรัพย์สิน เมื่อเข้าไปภายในบ้าน พบตู้คาราโอเกะแบบหยอดเหรียญ ซี่งนาย ข มีไว้ใช้ในการประกอบกิจการร้านอาหาร นาย ก(เจ้าหนี้)ได้งัดแงะตู้คาราโอเกะดังกล่าว เพื่อเอาเงินภายในตู้และได้เงินไปประมาณ 500 บาท
นาย ข แจ้งความดำเนินคดี กับนาย ก ข้อหาบุกรุกและทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ต่อมา คู่กรณีได้ตกลงกันรายละเอียดดังนี้
นาย ข ในฐานะผู้รับมอบอำนาจของนาย ค เจ้าของตู้คาราโอเกะ(ตู้ที่นาย ก งัดแงะ) นาย ก ขอชดใช้ค่าเสียหายให้ นาย ค เป็นเงิน 100,000 บาท โดยชำระเป็นเงินสดจำนวน 70,000 บาท อีก 30,000 บาท จะยอมผ่อนชำระให้เป็นรายเดือนๆละ 5,000 บาท จนกว่าจะครบ โดยเงินจำนวน 30,000 บาทนี้นาย ข จะรับผิดชอบผ่อนชำระต่อนาย ค เอง โดยหักหนี้ที่คงค้างต่อนาย ก จำนวน 190,000 บาทคงเหลือหนี้ที่จะตองชำระแก่นาย ก 160,000 บาท โดยการตกลงครั้งนี้คู่กรณีตกลงกันเองและพอใจกันทั้งสองฝ่าย และจะไม่ติดใจที่จะเรียกร้องฟ้องร้องกันทั้งทางแพ่งและทางอาญากันอีกต่อไป ข้อตกลงดังกล่าว พนักงานสอบสวนเป็นผู้บันทึก (ลงวันที่ 6 พ.ย. 2553)
วันที่ 18 พ.ค. 54 พนักงานสอบสวนแจ้งต่อนาย ก ให้ไปพบที่สถานีตำรวจ ในเช้าวันที่ 19 พ.ค. 54 เพื่อส่งฟ้องต่อศาลข้อหาบุกรุก และให้เตรียมหลักทรัพย์(ในกรณีขอประกันตัว)
ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวผมอยากเรียนถามว่า
1.คดีดังกล่าวทำไมยังไม่จบลง ในเมื่อคู่กรณีตกลงกันได้
2.พนักงานสอบสวนมีอำนาจฟ้องหรือไม่
3.นาย ก (ตัวผมเอง) จะต้องทำอย่างไร ถ้ารับสารภาพแนวคำพิพากษาจะเป็นอย่างไร ถ้าจะปฏิเสธเพื่อสู้คดีจะมีโอกาสชนะคดีหรือไม่ และเงินที่ได้ชดใช้ไปจำนวน 100,000 บาท จะขอคืนเพราะผิดสัญญาได้หรือไม่ หรือว่าจะต้องเสียไปเปล่าๆ (ผมรอคำแนะนำอยู่ครับ เพราะวันที่ ที่ระบุเป็นวันที่จริงๆ คือผมต้องไปพบพนักงานสอบสวนวันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น.)
ขอบพระคุณมากครับ
|