มาตรา ๑๕ วรรคสอง ของพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ บัญญัติสรุปได้ว่า
ขออนุญาตกราบเรียนถามว่า หากกรรมการสรรหาดำเนินการสรรหาบุคคลประเภทที่ ๒ ครบจำนวน ๒๒ คน และส่งรายชื่อให้เลขาธิการวุฒิสภาแล้ว ในกรณีการเสนอชื่อบุคคลเพื่อคัดเลือกเป็นกรรมการกสทช. ประเภทที่ ๑ เมื่อเกิดเหตุบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อของสมาคมฯใดขาดคุณสมบัติ ทำให้สมาคมฯนั้นต้องเสนอชื่อใหม่ภายในกำหนดเวลา บุคคลที่ไม่ได้รับการคัดเลือกจากประเภทที่ ๒ สามารถให้สมาคมฯเสนอชื่อเพื่อเข้าสู่การคัดเลือกกันเองของสมาคมฯให้เป็นผู้สมควรมีสิทธิเป็นกรรมการกสทช. อีก ๒๒ คน ของประเภทที่ ๑ ได้หรือไม่ จะขัดกับข้อห้ามของมาตรา ๑๕ วรรคสอง ที่ไม่ให้บุคคลที่จะเข้าสู่การคัดเลือกเป็นกรรมการกสทช. มีชื่อในทั้งสองบัญชีหรือไม่ และหากมีผู้ต่อสู้ว่า ในเมื่อบัญชีที่ ๒ ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว บุคคลที่ไม่ได้รับคัดเลือกก็ย่อมมีสิทธิได้รับการเสนอชื่อในบัญชีที่ ๑ ได้
เนื่องจากปัญหาเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดราชการ และกำหนดวันสุดท้ายของการเสนอชื่อ คือ วันพุธที่ ๑๘ พ.ค. ซึ่งเป็นวันเปิดทำงานวันแรก จึงขออนุญาตกราบเรียนปรึกษา ณ ที่นี้ ด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ
เรื่องที่องค์กรรับผิดชอบโดยตรงและมีหัวหน้าสูงสุดอยู่แล้ว ให้ความเห็นเป็นการสาธารณะอย่างนี้ไม่ได้หรอก เพราะจะกระทบถึงความเห็นของผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะเห็นตรงกันหรือไม่ ก็เป็นปัญหาได้ ถ้าตรงกัน ก็อาจถูกกล่าวหาถูกชี้นำโดยคนนอก ถ้าไม่ตรงกัน ก็จะมีการถือหาง สุดแต่ใครจะได้ประโยชน์ ทำให้เดือดร้อนโดยใช่เหตุ ยึดหลักที่ว่า กฎหมายที่จำกัดสิทธิคนนั้น ต้องพิจารณาโดยเคร่งครัด ไม่จำเป็นก็อย่าไปขยายให้ไกลออกไปจากที่กฎหมายบัญญัติไว้ ตอบมาให้ด้วยความห่วงใย ทั้ง ๆ ที่กำลังอยู่ต่างประเทศ