เรียนทนาย ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า ช ญ แต่งงานกันมีลูกด้วยกัน1คนไม่ได้จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกันที่บ้านหลังหนึ่งที่มีชื่อทั้งช ญ กู้ด้วยกัน(ญ เป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้าน) ค่าผ่อนบ้านตัดบัญชีฝ่ายชายมาตลอด จนวันนึงช ญ มีปัญหากันจนฝ่ายชายออกจากบ้านไป ไปอยู่คอนโด โดยทิ้งภาระหน้าที่ครอบครัวและลูกให้ฝ่ายหญิงรับผิดมา7เดือน ช่วงแรกๆระหว่าง7เดือนนั้น ฝ่ายหญิงได้มีการติดต่อฝ่ายชายเรื่องค่าใช้จ่ายเด็ก ให้พาเด็กไปหาหมอฉีดวัคซีน แต่ชายก้อปฏิเสธไม่ส่งเสียและไม่พาเด็กไปพบแพทย์เลยและได้บอกฝ่ายหญิงว่าอยากทำไรทำเลยฝ่ายหญิงตอบว่านี่เป็นบ้านคุณด้วยนะไม่สนใจบ้านหรอ ฝ่ายชายตอบว่าก้อคุณอยู่นี่ก็จัดการไปสิอยากทำไรก้อทำ พอผ่านไปจนเดือนที่8ฝ่ายหญิงได้ตัดสินใจย้ายออกจากบ้านหลังนั้น(ฝ่ายชายได้บีบ,ไล่ฝ่ายหญิงไว้)พร้อมขนตู้เย็น เครื่องซักผ้า เตียง ตู้เสื้อผ้า ของใช้ของลูก (ทรัพย์สินบางส่วนไม่ทัั้งหมดในบ้านหลังนั้น)ออกไปโดยจ้างบริษัทขน พอขนของไปถึงบ้านปลายทางแล้ว ฝ่ายหญิงได้ออกไปทำธุระข้างนอก สักพักทนายฝ่ายชายโทรหาฝ่ายหญิงว่าตอนนี้ฝ่ายชายพร้อมเพื่อนและทนายอยู่หน้าบ้านปลายทางที่ขนของไปไว้แล้วและจะแจ้งความข้อหาลักทรัพย์ ฝ่ายหญิงได้ตอบไปว่า มันเป็นของใช้ที่จำเป็นสำหรับไว้ใช้อยู่เลี้ยงลูกและไม่ได้ขนทรัพย์สินมาทั้งหมด ขนเท่าที่จำเป็น อีกอย่างก้อเป็นของที่ไปเลือกซื้อด้วยกันเพื่อไว้ใช้ในบ้านหลังแต่งงาน พอทนายฝ่ายชายบอกว่าขนไม่ได้ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ยินยอม มันเป็นคดีอาญา ฝ่ายหญิงเลยตอบไปว่า เดี๋ยวขนกลับไปให้ก็ได้ แต่ฝ่ายชายตอบว่ายังไงต้องดำเนินคดีแน่นอน ฝ่ายหญิงเลยไม่กล้าไปบ้านหลังนั้น เพราะฝ่ายชายมีทนายและพรรคพวกอยู่หน้าบ้าน จนมืดคืนวันนั้นฝ่ายหญิงได้แอบเข้าไปดูบ้านหลังนั้นแล้วเจอรถจอดชิดขวางหน้าบ้านและมีคนอยู่ในรถ2คน(ฝ่ายชายจ้างให้มาจอดขวางหน้าบ้านไม่รู้มีจุดประสงค์ไร น่าจะไม่ให้ขนของกลับไปที่บ้านหลังเดิม) คืนวันที่สองฝ่ายหญิงได้แอบไปดูอีกทีก็ยังเจอรถจอดขวางหน้าบ้านอีก ฝ่ายหญิงเลยตัดสินใจไม่ไปบ้านหลังนั้นอีก เช้าวันที่สามฝ่ายชายพร้อมทนายส่วนตัวและตำรวจในเครื่องแบบหนึ่งนายไปที่ทำงานฝ่ายหญิง แต่ไม่เจอฝ่ายหญิง และฝ่ายชายก้อได้เล่าให้คนที่ทำงานฝ่ายหญิงฟังว่า ฝ่ายหญิงหลอกเค้ามาตลอด พาลูกหนีขนของออกจากบ้านตอนเช้ามืด ติดต่อฝ่ายหญิงไม่ได้เลย(ทั้งที่ติดต่อได้) และบอกว่าลูกไม่ใช่ลูกของตน(ทั้งที่เป็นลูกของตน) บอกเรื่องไม่ดีต่างๆนานาให้เพื่อนร่วมงานฝ่ายหญิงฟัง ขณะนี้ก้อผ่านไปเดือนกว่าแล้ว ไม่รู้ว่าฝ่ายชายได้แจ้งความไว้ยังไง หรือคดีความไปถึงไหนแล้ว ฝ่ายหญิงทำอะไรไม่ถูกไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี อยากถาม1.การกระทำของฝ่ายหญิงผิดกฎหมายไหม ร้ายแรงแค่ไหน โทษอย่างไร 2.อายุความของคดีถ้าฝ่ายชายได้แจ้งความไว้จะมีผลนานแค่ไหน3.หมายเรียกแต่ละฉบับ ออกห่างกันแค่ไหน และกรณีนี้ฝ่ายหญิงจะโดนหมายจับหรือไม่4.ของที่อยู่ในบ้าน ฝ่ายหญิงเข้าไปเอาได้ไหม (กลัวฝ่ายชายจ้างคนดักอยู่ หรือ ตำรวจอาจมาจับ) 5.ถ้าฝ่ายหญิงต้องเดินทางไปต่างประเทศ เดินทางได้หรือไม่(ไม่รู้ว่ามีหมายจับหรือเปล่า)6.เช็คหมายจับได้ที่ไหนปลอดภัยที่สุด7.หมายเรียกจะส่งไปที่ไหน (ที่อยู่ตามบัตรของฝ่ายหญิงคือที่บ้านหลังเดิมที่ย้ายออกมา ฝ่ายหญิงไม่ได้เข้าไปบ้านหลังนั้นตั้งแต่ย้ายออกจนขณะนี้)8.จะเอาผิดฝ่ายชายเรื่องลูกได้หรือไม่ ที่ประกาศให้บุคคลอื่นฟังว่าไม่ใช่ลูกของตน ปล.ฝ่ายชายชอบเอาเงินไปซื้อคนบ่อยๆเป็นนิสัย ไม่ว่าจะเรื่องงานธุรกิจของตน โดยจ่ายให้เจ้าหน้าที่รัฐก็มี คนทั่วไปก็มี รบกวนทนายช่วยให้คำปรึกษาด้วยค่ะ
1. -2. เมื่อคุณเป็นผู้กู้ร่วมในการซื้อบ้าน ๆ นั้นก็เป็นของคุณด้วย ทรัพย์สินที่หามาด้วยกัน ก็เป็นของคุณด้วย คุณย้ายเอาไปอยู่ที่ใหม่กับลูก ไม่มีความผิดอะไร
3. ถ้าเขาเรียกมาก็ไปให้การ อย่าไปกลัว และเมื่อไปตามหมายเรียกแล้ว เขาก็ออกหมายจับไม่ได้ การออกหมายจับต้องไปขอศาล ตำรวจออกเองไม่ได้
4. ถ้าเป็นของใช้ส่วนตัวหรือที่เคยใช้อยู่ ก็ไปเอามาได้ แต่เวลาจะไปควรหาพยานหรือตำรวจไปด้วย
5. ไม่มีอะไรห้าม
6. ตรวจสอบได้ที่สถานีตำรวจทั่ว ๆ ไป เพราะเวลาเขาออกหมายจับเขาก็ส่งไปทั่ว
7. เมื่อคุณไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับเขา ลูกก็เป็นของคุณคนเดียว ไม่ใช่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของชาย เว้นแต่คุณจะไปร้องต่อศาลให้เขารับรองเด็กเป็นบุตร
คนตอบไม่ใช่ทนายความ เป็นแต่เพียงพอมีความรู้อยู่บ้าง ถ้าอยากได้ทนาย คงต้องไปหาเขาตามสำนักงาน