ขาดคุณสมบัติหรือไม่ที่จะลงสมัครผู้ใหญ่บ้าน
เรียนท่านมีชัยที่เคารพ
ดิฉันอาศัยอยู่ที่บ้านท่านางแนว อำแวงน้อย จังหวัดขอนแก่น และทางหมู่บ้านกำลังจะเปิดรับสมัครผู้ใหญ่บ้านในวันที่2-4พฤษภาคมนี้ และหนึ่งในผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งนั้นเคยถูกจำคุกเป็นเวลา2ปีแต่ดิฉันไม่แน่ใจว่าคดีอะไรบ้างซึ่งดิฉันกำลังพยายามสอบถามเพื่อหาข้อมูลอยู่แต่พอรู้มาบ้างว่าเป็นคดีเกี่ยวกับการทุจริตเงินแต่ไม่ทราบว่าเป็นการทุจริตเงินหลวงหรือไม่ และผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งอ้างว่าหลังจากออกจากคุกมาได้ทำการขอพระราชทายอภัยโทษแล้ว เมื่อรวมระยะเวลาที่ติดคุก และที่ขอพระราชทานอภัยโทษจะเป็นเวลาประมาณ 4ปีกว่า เมื่อถึงวันเปิดสมัครรับเลือกตั้ง
และเมื่อวันที่28 เมษายนทางอำเภอได้จัดเจ้าหน้าที่เพื่อออกมาให้ความรู้กับประชาชนเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งโดยมีเนื้อหาประมาณ10กว่าข้อ และหนึ่งในนั้นก็มีข้อยกเว้นไว้ว่าผู้ที่รับสมัครที่ถูกจำคุกแล้วและที่ขอพระราชทานอภัยโทษแล้วสามารถที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งได้และในการนี้ทางอำเภอยังบอกว่านี่เป็นกฏหมายใหม่โดยทำการแต่งตั้งคณะกรรมการจากคนในหมู่บ้านขึ้นมาเพื่อทำการตรวจสอบคุณสมบัติของคนที่จะรับสมัคร โดยเลือกคนภายในหมู่บ้านท่านางแนว7 คน และอยู่ที่อำเภออีก3 คนขึ้นมาโดยมี 1.ปลัดอำเภอโดยตำแหน่งและทำหน้าที่เป็นเลขา ส่วนอีก2 คนเป็นข้าราชการในอำเภอแต่ยังไม่แจ้งให้ประชาชนในหมู่บ้านทราบว่าเป็นใคร เมื่อตั้งกรรมการขึ้นมาแล้วจะให้ทั้ง10คนนี้เป็นคนตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร โดยไม่ได้ระบุว่ามีกี่เสียงที่เห็นชอบด้วยจึงจะอนุญาติให้มีสิทธิลงสมัคร และคนในหมู่บ้านที่ได้รับให้ตรวจสอบคุณสมบัตินั้นไม่มีใครที่รู้กฏหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งเลย โดยมีความรู้แต่เพียงที่ทางอำเภอได้อธิบายให้ฟังเท่านั้นและยังมีผู้ที่เคยเป็นสจ.และกำลังจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.ซึ่งเป็นพี่ชายของผู้ที่จะลงสมัครเป็นผู้ใหญ่บ้าน ได้อธิบายให้ชาวบ้านฟังและได้ไปพูดกับที่อำเภอว่าสามารถลงได้
ซึ่งเมื่อดิฉันได้พยายามที่จะหาข้อมูลจากทางอินเตอร์เน็ตแล้วโดยดิฉันขออนุญาติก๊อบมาเพื่อประกอบคำถาม
มาตรา 45 บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
(๑) ติดยาเสพติดให้โทษ (๒) เป็นบุคคลล้มละลาย (๓) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา ๓๔ (๑) (๒) หรือ (๔) (๔) ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายศาล (๕) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกตั้งแต่สองปีขึ้นไป และ ได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท (๖) ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ไม่ว่าจะ ได้รับโทษหรือไม่ โดยได้พ้นโทษหรือต้องคำพิพากษามายังไม่ถึงห้าปี นับถึงวันเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี (๗) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริต และประพฤติมิชอบในวงราชการ (๘) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ (๙) เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียง เพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น แล้วแต่กรณี มายังไม่ถึงห้าปีนับถึงวันเลือกตั้ง (๑๐) อยู่ในระหว่างเสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นตามมาตรา ๓๗ หรือตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา (๑๑) เคยถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง มายังไม่ถึงหนึ่งปีนับแต่วันที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีคำสั่งอันเนื่องมาจากการกระทำการโดยไม่สุจริต ตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับเลือกตั้ง หรือได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริต (๑๒) เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น (๑๓) เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภา หรือเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกัน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น (๑๔) เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ (๑๕) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ (๑๖) เป็นกรรมการการเลือกตั้ง กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา (๑๗) ลักษณะอื่นที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด
โดยกฎหมายนี้ไม่มีการพูดเกียวดกับเรื่องพระราชทานอภัยโทษไว้เลย หรือว่ายังมีกฎหมายฉบับที่ใหม่กว่านี้ที่ดิฉันไม่ทราบ
ดังนั้นดิฉันจึงเขียนมาเพื่อที่จะเรียนสอบถามว่าท่านที่ดิฉันไดกล่าวมานี้มีคุณสมบัติหรือเปล่า เพราะทางอำเภอจะโยนให้คน 10 คนนี้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคนชี้ขาด และถ้าหากว่าทั้ง 10คนบอกว่าลงได้ แต่ตามกฎหมายบอกว่าไม่ได้ดิฉันจะต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อความถูกต้อง
จึงเรียนมาเพื่อที่ท่านจะได้ช่วยอธิบายให้หายสงสัย
ขอขอบคุณ
นางณัฐกานต์ เศษอาจ
|