ใ สัญญาที่เขาทำในแต่ละห้วงเวลา แต่ละคนก็มีเงื่อนไขเหมือนกัน ไม่ได้มีใครได้เปรียบใคร หรือไม่เท่าเทียมกัน
2. การที่ทางราชการจ่ายเงินให้ไปเรียนหนังสือ และในระหว่าง
เรียนบางคนก็ได้รับเงินเดือนด้วย ทางราชการก็หวังว่าจะได้คนกลับมาทำงานให้ เขาไม่ได้บังคับให้ให้ต้องรับทุน เงื่อนไขต่าง ๆ เขาก็กำหนดไว้ล่วงหน้า ไม่ใช่เพิ่งจะมากำหนดในภายหลัง เงินที่จ่ายไปก็เป็นเงินภาษีอากรของราษฎร และเมื่อกลับมาทำงานก็จ่ายเงินเดือนให้ ไม่ได้เอารัดเอาเปรียบอะไร ในระหว่างที่นักเรียนทุนไปเรียน ท่างราชการก็ต้องรอจนกว่าจะสำเร็จ จึงจะได้คนกลับมาทำงานให้ ผมเองก็ได้รับทุนรัฐบาลไปเรียน และสำนึกอยู่เสมอว่า ถ้าไม่ได้ทุนไปเรียน ชาตินี้ก็คงไม่ได้มีโอกาสไปเรียนได้ ระหว่างเรียนรัฐก็ออกค่าเล่าเรียนให้ ออกค่ากินอยู่ ค่าใช้จ่ายให้ ที่นั่งตอบคำถามให้คนทั่วไปอยู่ทุกวันนี้ โดยไม่มีค่าตอบแทนใด ก็เพราะสำนึกในบุญคุณของแผ่นดิน จึงเอาความารู้ที่ได้มาจากเงินภาษีอากรมาตอบแทนประชาชนทั่วไปเป็นการทดแทนบุญคุณ แม้จะใช้ทุนหมดแล้วก็ตาม
3. ดูเหมือนเขาเรียกเงินที่จ่ายไปคืนพร้อมด้วยดอกเบี้ยเท่านั้น ลองศึกษาสัญญาดูให้ดี ๆ เถอะ บางทีบริษัทใหญ่ที่เขาอยากได้เขาก็ยอมออกเงินใช้ทุนให้ เพราะเขาถือว่าเขาได้กำไร เพราะไม่ต้องรอ อยากได้คนไหนที่ตรงตามที่เขาต้องการและเป็นประโยชน์ที่จะทำกำไรให้เขาได้ เขายอมจ่ายเงินซื้อตัวมา
รัฐดูแลอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก็จริง แต่ถ้าใครผิดนัด อัตรานั้นก็เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ ยี่สิบกว่าเพียงไม่กี่ปีก็ท่วมต้น
ความจำเป็นที่จะต้องหาเงินเลี้ยงชีพและช่วยครอบครัวนั้นก็มีด้วยกันทุกคน แต่ถ้าอดทนให้ผ่านพ้นไปได้ ความภูมิใจในตัวเองอาจจะคุ้มค่ากับความยากลำบาก นอกจากนั้นเมื่อรับราชการแล้ว ทางราชการมิได้ดูแลเฉพาะตัวเอง แต่ดูแลไปถึงพ่อแม่ ลูกเมียด้วย
มีชัย ฤชุพันธุ์ 20 เมษายน 2554 |