เรียน อาจารย์มีชัยที่เคารพ
ด้วยข้าพเจ้าเป็นเจ้าของกิจการร้านเครื่องเขียนยอดขายประมาณ 200,000.-บาท/เดือน แต่ผมขยายกิจการผิดพลาดผมมีปัญหาการเงิน มีเพื่อนผม(รุ่นน้อง) มาเสนอขอเซ้งกิจการทั้งหมดของผมพร้อมทั้งตัวอาคารในราคา 600,000.-บาท เป็นระยะเวลา 10 ปี พอถึงวันทำสัญญาเพื่อนก็มาหาผมพร้อมกับพ่อ-แม่และญาติของเขาอีกสองคน รวมทั้งหมด 4 คน ส่วนผมคนเดียว เหตุการณ์มันกระทันหันวันนั้นผมเตรียมสัญญาไม่ทัน ญาติของเขาคนหนึ่ง(จบนิติฯเป็นทนายความ คนนี้รู้จักผมเคยทำงานด้วยกันมา) ได้ไปซื้อสัญญาเช่าสำเร็จรูปมาจำนวน 4 ฉบับ และญาติคนดังกล่าว ได้บอกด้วยวาจาแล้วให้พ่อของเพื่อนเป็นคนเขียนข้อความในสัญญา ญาติคนที่เป็นทนายกำหนดให้ทำสัญญาเป็น 4 ฉบับ ๆ ที่ 1 ระยะเวลาเช่า 3 ปี เป็นเงิน 180,000.-บาท ฉบับที่ 2 ระยะเวลา 2 ปี เป็นเงิน 120,000.-บาท ฉบับที่ 3 ระยะเวลา 3 ปี เป็นเงิน 180,000.-บาท ฉบับที่ 4 ระยะเวลา 2 ปี เป็นเงิน 120,000.-บาท เมื่อครบกำหนดสัญญาแล้ว ทรัพย์สินและสินค้ารวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการค้าให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เช่าทั้งหมด แต่สัญญาดังกล่าวไม่จดทะเบียนต่อหน้าเจ้าหน้าที่พนักงาน และติดอากรแสดมป์ที่สัญญาฉบับละ 10 บาท ก่อนเขียนสัญญา แม่ของเพื่อนต่อรองการจ่ายเงิน โดยขอแบ่งจ่ายเป็น 2 งวด ๆละ 300,000.-บาท งวดแรกจ่ายเมื่อวันทำสัญญา งวดที่ 2 แม่เพื่อนต่อรองขอเวลาอีก 12 เดือน ผมให้ 6 เดือน แม่เพื่อนต่อขอ 10 เดือน ผมตกลงให้ระยะเวลา 10 เดือน แม่เพื่อนก็ยินดีตกลงตามนั้น แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าในสัญญาที่ทำจริงนั้น ระบุว่าผู้ให้เช่าได้รับเงินค่าเช่าล่วงหน้าจากผู้เช่านับตั้งแต่วันทำสัญญานี้แล้ว ทั้งเพื่อนและญาติที่เป็นทนาย(ซึ่งรู้จักกับผม) บอกผมว่าไม่มีปัญหาหรอกคนกันเองไม่ต้องเขียนสัญญาว่ารับเงินเป็นงวด ๆ ส่วนผมตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเพราะรู้จักกันทั้งนั้น แต่พอถึงกำหนดครบ 10 เดือน ตามที่สัญญาบอกกล่าวด้วยวาจา เพื่อนไม่นำเงินมาชำระตามสัญญา ผมจึงติดต่อถามทวงกับเพื่อน เพื่อนบอกว่าให้คุยกับแม่ ผมก็ทวงกับแม่เพื่อน แม่เพื่อนให้คุยกับพ่อเพื่อน ผมก็ทวงถามกับพ่อ ๆ ตอบบ่ายเบี่ยงว่ากลัวมีปัญหาอยู่ไม่ถึง 10 ปี กลัวธนาคารจะมายึดบ้าง ตอนนี้ไม่มีเงินเลยบ้าง ผมก็ถามว่า แล้วจะทำอย่างไร พ่อตอบว่า ไม่รู้เหมือนกัน ผมจึงถามญาติเพื่อนที่เป็นทนายให้ช่วยไกล่เกลี่ยให้หน่อย ญาติที่เป็นทนายบอกกับผมว่าให้ไปตกลงกันที่ธนาคาร ผมถามกลับไปว่าธนาคารมาเกี่ยวอะไรด้วย แต่ผมสันนิษฐานว่าเขาต้องการบีบซื้อตัวอาคาร ผมเลยแจ้งกลับไปว่าถ้าไม่จ่ายเงินก็เอากิจการของผมคืนมา เนื่องจากตอนนี้เป็นเดือดร้อนมากเรื่องเงินมากเพราะผมมาเปิดกิจการใหม่ ต้องจ่ายค่าวัสดุและค่าของอีกมากซึ่งผมรอจากเงินก้อนนี้อยู่ เรียนอาจารย์ ตอนนี้ผมหมดตัวแล้ว เพราะในสัญญาที่ทำผมเสียเปรียบ ไม่ทราบพอจะแนะนำช่องทางให้ผมได้ฟ้องร้องต่อสู้คดีให้เขาออกจากร้านได้บ้างครับ ผมขอรบกวนอาจารย์เพียงเท่านี้ ขอขอบคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ